“จิ้งหรีด” แมลงเศรษฐกิจที่แห่งอนาคต
ต้นทุนต่ำ แต่ผลตอบแทนสูง ตลาดมีความต้องการทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดโลกต้องการผงโปรตีนชั้นสูงจากแมลงจิ้งหรีดไม่ต่ำกว่า
1 แสนล้านตันต่อปี ถือว่าเป็นช่องว่างทางการตลาดที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าไปแทรกส่วนแบ่งตลาดที่มีมูลค่ามากกว่า
9,000 ล้านบาทต่อปี
ด้วยแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพราะเป็นอาหารโปรตีนแห่งอนาคต
แต่เกษตรกรไทยจะเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดได้นั้นต้องเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดให้ได้มาตรฐานของตลาดโลก
ซึ่งไม่ใช่ปัญหาเนื่องจากตอนนี้ประเทศมีหลายบริษัทตั้งโรงงานแปรรูปผงโปรตีนจากเกษตรกรโดยตรงและตั้งโรงงานแปรรูปผงจิ้งหรีดสำเร็จรูปครบวงจรและทำเป็น
“ฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด” ต้นแบบมาตรฐานสากลให้เกษตรกรไทยนำไปโมเดลสานต่อการทำธุรกิจฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด
บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์แมลงจิ้งหรีดครบวงจร ถือเป็น “ฟู้ดเทค สตาร์ทอัพ”รายแรกของไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)มาตั้งแต่ปี 2559 โดยปีนี้ได้รับงบสนับสนุนอีกจำนวน 100 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆเพื่อดำเนินการทำ “ฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด” ต้นแบบมาตรฐานสากล ก่อนที่หน่วยงานรัฐจะนำระบบฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดมาตรฐานสากลไปส่งเสริมให้เกษตรกรไทยได้นำไปเป็นโมเดลทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด สร้างอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน ลงทุนน้อย รายได้มั่นคง และตลาดโลกยังคงต้องการผลิตภัณฑ์แปรรูปผงจิ้งหรีดโปรตีนสูงเป็นจำนวนมาก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
เส้นทางนักเรียนนอก สู่ต้นแบบฟาร์มจิ้งหรีดระบบปิด
หลังดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการทำฟาร์มแมลงจิ้งหรีดระบบปิดครบวงจรมาตรฐานสากลตั้งแต่ต้นน้ำ
กลางน้ำ และยันปลายน้ำ “ธีรณัฐ รุ่งสุวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย
เอนโท ฟู้ด จำกัด ตั้งอยู่ที่ จ.พิษณุโลก
เจ้าของโรงงานแปรรูปและผลิตภัณฑ์ผงโปรตีนจากจิ้งหรีด
มีแนวคิดที่จะต่อยอดผลักดันเกษตรกรไทยที่เลี้ยงจิ้งหรีดเป็นอาชีพเสริมหันมาทำเป็นอาชีพอย่างจริงจังและสร้างรายมั่นคงยั่งยืน
เพราะจิ้งหรีดจะกลายเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมอาหารหลักของไทยส่งออกไปยังต่างประเทศตอบสนองเทรนด์ใหม่ทั่วโลกที่กำลังนิยมบริโภคแมลงที่ให้โปรตีนสูงแทนสัตว์เนื้อเพราะรับประทานแมลงปลอดภัยมากกว่าแต่เกษตรกรไทยต้องเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดให้ได้มาตรฐานสากลถึงจะส่งไปขายได้
ธีรณัฐ บอกว่าเกษตรกรสามารถนำคอนเซปต์ของฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดระบบปิดมาตรฐานสากลที่บริษัทดำเนินการอยู่ในขณะนี้จะเป็นต้นแบบให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้สำหรับทำเป็นฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดซึ่งบริษัทได้ทำวิจัยและพัฒนา
(R&D)ควบคู่กับนักวิจัยสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศไทยอย่างเข้มข้นโดยนำจิ้งหรีดจากฟาร์มเลี้ยงแปรรูปพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์สินค้าจากผงจิ้งหรีดโปรตีนสูงให้ได้มาตรฐานสากลก่อนส่งขายไปทั่วโลกทั้งตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป(อียู)
“ผมเรียนจบมาทางด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศระดับปริญญาตรีและโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ จากสหรัฐอเมริกา โดยเปิดทำร้านอาหารอยู่ที่นั่นสักพัก เมื่อตัดสินใจกลับมาไทยจึงอยากสร้างธุรกิจที่มีผลกระทบต่อชุมชนน้อยที่สุดและต้องการร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทยเดินไปข้างหน้าไม่จำเจอยู่กับที่ ซึ่งมีธุรกิจหลายอย่างสนใจอยากทำ แต่มาลงเอยที่ธุรกิจแมลงซึ่งประเทศไทยยังไม่มีการทำธุรกิจเชิงพาณิชย์เท่าที่ควร ประกอบกับชาวสหรัฐฯกำลังฮิตรับประทานแมลงที่แปรรูปเป็นผงแมลงให้เข้ากับอาหารนานาชนิด จึงตัดสินใจทำธุรกิจนี้ เพราะ ประเทศไทยมีศักยภาพและเหมาะสมกับการเลี้ยงแมลงอย่างมาก เช่น จิ้งหรีด จึงศึกษาและลงทุนทำธุรกิจแมลงจิ้งหรีดอย่างจริงจัง”
แบรนด์ “Sixtein” โปรตีนจิ้งหรีดไทยเจาะตลาดต่างประเทศ
ปัจจุบันบริษัทได้ทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดระบบปิดมาตรฐานสากล
ซึ่งเป็นฟาร์มต้นแบบที่ จ.นครสวรรค์ ขนาดประมาณ 900 ตารางเมตร โดยฟาร์มแห่งนี้จะเพราะเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นตัวสดได้ประมาณ
120 ตันต่อปี หลังจากนั้นจึงนำไปสู่การแปรรูปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ผงโปรตีนจิ้งหรีดคุณภาพสูง
ซึ่งจิ้งหรีดที่เป็นตัวสดจำนวน 4 กิโลกรัม จะนำไปแปรรูปเป็นผงจิ้งหรีดได้ประมาณ 1
กิโลกรัม เป็นผงโปรตีนจิ้งหรีดแบบเข้มข้น จากนั้นนำไปทำการตลาดภายใต้ชื่อแบรนด์ “Sixtein” เน้นเจาะตลาดลูกค้าแบบบีทูบี หรือ นำไปพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆทั้งเป็นอาหาร
และเครื่องดื่ม ส่งขายไปทั่วโลกทั้งสหรัฐอเมริกา และ สหภาพยุโรป
ตลาดทั่วโลกให้การยอมรับผลิตภัณฑ์แปรรูปผงจิ้งหรีดจากไทยภายหลังจากบริษัทได้รับการส่งเสริมจากนักวิจัยจากอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร และจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สนช. (NIA) เข้ามาร่วมกันพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและได้คุณภาพของวัตถุดิบที่มีระบบตรวจสอบแบบย้อนกลับมาได้ทำให้ สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งคู่ค้าจากต่างประเทศสั่งซื้อผงโปรตีนจิ้งหรีดนำไปผลิตสินค้าเพื่อบริโภค เช่น พาสต้า จากอิตาลี ได้ซื้อผงโปรตีนจิ้งหรีดเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของพาสต้าส่งออกไปต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง เช่นเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างก็สั่งซื้อสินค้าจากบริษัทเพื่อนำไปประยุกต์ให้เข้ากับการผลิตอาหารเพื่อบริโภคที่กำลังนิยมรับประทานอาหารปลอดสารเคมีซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังฮิตใน 2 ทวีปดังกล่าว และยังมีการนำไปผสมทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
ส่งเสริมอาชีพเกษตรกร เลี้ยงจิ้งหรีด 2 ปีคืนทุน
อนาคตฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อการบริโภคยังคงเติบโตไม่หยุดและการตลาดสดใสที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ทำให้
“ธีรณัฐ”วางแผนส่งเสริมสนับสนุนฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดระบบปิดเป็นต้นแบบให้เกษตรกรภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนประกอบเป็นอาชีพหลัก
ซึ่งมีสภาพอากาศอุณหภูมิอยู่ที่ระดับ 30-40 องศา เหมาะสำหรับทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดโดยทางบริษัทพร้อมทำคอนแทร็คฟาร์มกับเกษตรกรทุกราย
พร้อมการันตีราคารับซื้อสินค้าและราคาซื้อ ซึ่งไม่มีการหลอกลวงประชาชนอย่างแน่นอนเนื่องจากโครงการนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐขับเคลื่อนในการสร้างอาชีพให้ชาวบ้านอย่างเป็นรูปธรรม
หลังจากสนับสนับให้เกษตรกรภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนเข้าร่วมโครงการแล้วในปีหน้าจะเข้าไปขยายโครงการไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)ซึ่งเป็นอีกภาคที่ถือว่าเป็นแหล่งสร้างฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดที่เหมาะสมมากที่สุด
เนื่องจากสภาพอากาศ อุณหภูมิอยู่ในระดับที่ดีอากาศร้อนชื่นตลอดทั้งปี
โดยทางบริษัทจะจับมือกับภาครัฐและเอกชนปล่อยส่งเสริมการสร้างฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดระบบปิด
โดยสร้างฟาร์ม 1 ฟาร์มเล็ก ขนาด 200 เมตร ราคาประมาณ 3 แสนบาท
ซึ่งทางบริษัทพร้อมรับซื้อสินค้าทั้งหมด แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตราฐานของบริษัทและการันตีมีรายไม่ต่ำกว่า
5 หมื่นบาทต่อเดือน สามารถคืนทุนภายใน 2 ปี
แต่หากต้องการคืนทุนเร็วกว่านี้สามารถขยายทำฟาร์มเลี้ยงเป็น 2 ฟาร์มขึ้นไป ส่วนพันธุ์จิ้งหรีดที่นำมาเพาะเลี้ยงเป็น จิ้งหรีดพันธุ์ทองแดง เป็นจิ้งหรีดขนาดกลาง เหมาะแก่แปรรูปเป็นผงโปรตีนเพราะมีสีน้ำตาลอ่อน ตัวเล็กเปลือกไม่แข็ง ผงโปรตีนที่ได้จึงมีสีอ่อนทำให้เหมาะแก่การนำไปเป็น Food Protein Ingredient เนื่องจากไม่ไปกลบสีของอาหารแปรรูปชนิดนั้นๆ การเลี้ยงก็ง่าย ไม่ยุ่งยาก ดูแลแค่เช้าและเย็น โดยทางบริษัทจะป้อนให้เกษตรกรที่ทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดในแต่ละรุ่น โดยใช้เวลาการเลี้ยงไม่เกิน 45 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งแต่ละปีสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้สูงถึง 3 ครั้ง
บริษัทตั้งเป้าผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเป็นอุตสาหกรรมการผลิตผงจิ้งหรีดคุณภาพสูงและอุตสาหกรรมเลี้ยงจิ้งหรีดอันดับ1ของเอเชีย เนื่องจากสภาพอากาศและภูมิศาสตร์เอื้ออำนวย ที่สำคัญมีทรัพยากรมากมายและค่าแรงยังไม่สูง ดังนั้นการผลักดันเป็นอุตสาหกรรมแหล่งผลิตผงจิ้งหรีดหลักต่อไป ไม่ใช่เรื่องยาก หากเลี้ยงตามมาตรฐานสากลมีตลาดโลกรองรับผลผลิตเป็นจำนวนมาก และตลาดแมลงเพื่อการบริโภคมีแนวโน้มการเติบโตมากกว่าร้อยละ 10 ต่อปี ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะพุ่งแตะระดับ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯภาย ในปี 2021