ปั้น SME...โตก้าวกระโดดด้วย Digital marketing

ในโลกการแข่งขันธุรกิจมิได้สู้กันด้วยเงินทุน บุคลากรอีกต่อไปแล้ว การจะแพ้ชนะเด็ดทีขาดต้องสู้กันด้วยข้อมูลหรือ ‘Big Data’ ว่าใครพร้อมกว่า แม่นยำกว่าและเจ๋งกว่า เฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจรายเล็กๆอย่าง ‘SME’ ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของทุนและบุคคลากร “ข้อมูล” จึงกลายเป็นอาวุธลับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลายๆ องค์กรที่ทำการตลาดด้วย Digital marketing โดยการนำข้อมูลมาเคราะห์และเพื่อใช้ในการตัดสินใจในการกำหนดทิศทางการตลาดได้อย่างถูกต้องแม่นยำซึ่งผู้ประกอบการ SMEs หลายรายก็ใช้ข้อมูลในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพจนธุรกิจประสบความสำเร็จมาแล้ว

ดังนั้นเมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้เชิญนักธุรกิจดาวรุ่ง 4 รายใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือในการบริหารการตลาดจนประสบความสำเร็จมาเล่าสู่กันฟังในงาน Geek Tales ซึ่งได้กล่าวถึงแนวคิดการทำ Digital Marketing ในปัจจุบัน

“ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท JM Cuisine ชื่อนี้หลายคนไม่คุ้นแต่ถ้าบอกว่า “เจ๊กเม้ง” ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นตำรับ เพชรบุรี เป็นรายแรกๆ ที่ใช้โซเชี่ยลมีเดีย ทำ Digital Marketing  สร้างแบรนด์ให้โดนใจคนรุ่นใหม่ได้เล่าให้ฟังว่า การทำธุรกิจสิ่งสำคัญที่สุด คือ โฟกัสกลุ่มเป้าหมายให้ชัดว่าลูกค้าคือใคร แล้วหาให้ได้ว่าพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมายคืออะไร อะไรคือสิ่งที่เขาชอบ อะไรคือจุดที่ลูกค้ายินดีจะจ่ายเงินซื้อ

“ถ้าจะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ต้องรู้ว่าคนจีนไม่ดู Google map แต่ใช้ Baidu map ชอบใส่ชุดลายดอก ชอบชาร้อนมากกว่าชาเย็น เมื่อเข้าใจแล้วจึงนำมาปรับให้เข้ากับสินค้า ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น ยินดีจะจ่ายเงินโดยไม่จำเป็นต้องลดราคา และทำให้ลูกค้าสนุก”

เมื่อโลกเปลี่ยนเร็ว แบรนด์ยิ่งต้องปรับตัวให้ทัน ต้องค่อย ๆ สะสมข้อมูล ที่สำคัญคือ “รักลูกค้าจริง ๆ ไม่ใช่แค่สร้าง awareness” พร้อมดัดแปลงเครื่องมือและพร้อมแข่งขัน อย่ายึดติดกับวิธีเดิม ๆ ที่ทำสำเร็จแล้ว

การปรับ algorithm ของ Facebook ทำให้ลดการมองเห็น หลายคนเอาแต่ต่อว่าไม่ยอมปรับตัว ไม่หาเครื่องมือใหม่ ๆ ทั้งที่มีคนโพสต์สตอรี่ใน Instagram และ Facebook มากขึ้น เกิดพฤติกรรมใหม่ ๆ หรือแอพฯอย่าง TIKTOK เป็นเครื่องมือที่ Mass มากขึ้น มีอัตราการเห็นเยอะ ซึ่งความเป็น Mass จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าใช้ดาราหรือ Influencer

“ดังนั้นทำธุรกิจต้องมองภาพให้กว้าง มองท้องถิ่นให้ออก พลิกวิธีคิดให้ได้ กระตุ้นให้ลูกค้าพูดแทนให้ได้มากที่สุด”ดร.ธีรศานต์.กล่าวทิ้งท้าย

‘สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม’ CEO และผู้ก่อตั้ง “rgb72” ที่ปรึกษาด้าน Digital marketing มาเปิดเคล็ดลับในการเล่าเรื่องว่า ยุคนี้ “storytelling” มีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์อย่างมาก ซึ่งแบรนด์ไม่ใช่แค่บริษัท แต่หมายถึงตัวตน เมื่อสร้างเรื่องราวจะทำให้คนมองภาพของแบรนด์แตกต่างไป

เขาบอกว่า เคล็ดลับในการเล่าเรื่องมีอยู่ 9 วิธีที่จะให้คนเชื่อและเปลี่ยนความเข้าใจ สร้างแบรนด์ให้มีคุณค่าคือ

1.เนื้อหาต้อง related กับผู้ฟัง เช่น รู้ว่าเขาต้องการฟังอะไร

2.มีเรื่องราว journey เช่น มีเรื่องราวก่อนจะประสบความสำเร็จ เพื่อให้น่าสนใจและมีอารมณ์ร่วม

3.shareable ทำให้รู้สึกว่าน่าแชร์

4.imagine สร้างสตอรี่ให้คนเกิดจินตนาการกระทั่งเคลิ้ม

5.simple เรียบง่าย

6.emotion ทำให้มีอารมณ์ร่วม

7.unexpected ต้องคาดการณ์ไม่ได้ เรื่องเซอร์ไพรส์เป็นสิ่งที่คนชอบ

8.compare คือ ต้องเปรียบเทียบได้ เพื่อให้มีน้ำหนักสนับสนุนแบรนด์มากขึ้น และทำให้คนบางคนเป็นฮีโร่และผู้ร้ายได้ สุดท้าย

9.just do it คือ ต้องทำทั้งหมดให้เกิดขึ้น เพราะต่อให้แบรนด์ดี แต่เล่าเรื่องไม่ได้ทุกอย่างก็จบ

“มารุต ชุ่มขุนทด” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท คลาสคอฟฟี่ จำกัด เจ้าของ “Class Cafe” จากโคราชใช้เวลาแค่ 3 ปีขยาย 24 สาขา กล่าวว่า แม้ร้านกาแฟจะมีมากมาย แต่ได้ “ตีความใหม่” ให้ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ แต่เป็นคอมมิวนิตี้หรือชุมชนให้กับสตาร์ตอัพและคนทั่วไป เช่น มีคลาวด์ให้บริการโดยร่วมกับไมโครซอฟท์

ในช่วงแรกก็มีปัญหาเรื่อง “ความรู้” แต่ได้เรียนรู้และใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย อย่าง Big data, AI, face recognition โดย 2-3 ปีแรกทุ่มไปกับการเรียนรู้และปั้นธุรกิจด้วยการเป็น Data Scientist โดยนำข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีมาใช้เพื่อคาดการณ์อนาคตให้แม่นยำ แล้วมาประมวลผลใหม่ซึ่ง “ข้อมูล” ทำให้บริหารสต็อก บริหารลูกค้า รวมถึงต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คนสุดท้าย ‘โปร่งฟ้า อุนนาทรวรางกูร’ ผู้ร่วมก่อตั้ง Polpa ผู้ให้บริการส่งอาหาร health food ที่กำลังมาแรง เปิดเผยว่า สถิติของธุรกิจร้านอาหาร พบว่า 60% ปิดตัวใน 1 ปี และ 80% ปิด 5 ปี เนื่องจากมีการแข่งขันและใช้เงินทุนสูง โดยเฉพาะ “พนักงาน” เป้าหมายจึงเน้นที่การลดต้นทุนทุกอย่างลง โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยทั้งหมด

“Polpa ใช้ 2 คนบริหาร และทำทุกอย่างโดยใช้ Digital ตั้งแต่รับออร์เดอร์ผ่านเว็บ ออร์เดอร์เข้าห้องครัว การวางแผนขนส่งใช้ AI วางแผนหาเส้นทางที่สั้นที่สุดถูกที่สุด ใช้ระบบบัญชีบนคลาวด์ จึงประหยัดและเร็ว ซึ่งความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญมากในปัจจุบัน เพราะคนไม่ชอบรอต้องทำให้ทุกอย่างจบภายในหน้าเดียว มีรูปแบบการจ่ายเงินที่ครบ รวมทั้งสั่งเป็นรายเดือนได้ โดยลูกค้าเกิน 70% จ่ายเงินล่วงหน้ารายเดือน ลูกค้าก็ได้ราคาที่ดี ร้านก็ได้เงินก้อน”

ที่สำคัญคือ การใช้ Digital ทำให้ได้ “Data” ที่สามารถเรียนรู้ลูกค้า วิเคราะห์ความต้องการและแก้ปัญหาได้ตรงจุด สามารถสร้างความผูกพันกับแบรนด์ได้ดีมีข้อมูลเพื่อก้าวไปข้างหน้าและขยายธุรกิจได้ง่าย จากการมีระบบหลังบ้านที่ดี

“แม้มีทุนไม่มากเพรายังเป็น SME แต่เรายอมลงทุนกับเทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนในส่วนอื่น และปรับตัวได้เร็ว ล้มเร็วต้องลุกเร็ว อย่าประมาทศักยภาพ SME แต่ต้องอดทน ต้องทำให้สำเร็จ มีวิริยอุตสาหะ”โปร่งฟ้ากล่าว