ไขปริศนาก๊าซเรือนกระจก พร้อมวิธีลดโลกร้อนฉบับเข้าใจง่าย

SME Update
17/09/2025
รับชมแล้วทั้งหมด 1 คน
ไขปริศนาก๊าซเรือนกระจก พร้อมวิธีลดโลกร้อนฉบับเข้าใจง่าย
banner

ปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในปัจจุบันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลกแม้แต่พวกเราที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็สามารถสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนกว่าเดิม หรือ ฝนตกหนักและน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้น ยิ่งทำให้ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

และจุดเริ่มต้นของความแปรปรวนดังกล่าวนั้นมาจากก๊าซเรือนกระจกที่สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ในบทความนี้จะไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก สาเหตุ และผลกระทบที่ตามมา รวมทั้งชี้ให้เห็นแนวทางที่เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ได้

  • ก๊าซเรือนกระจก คือ ก๊าซในชั้นบรรยากาศที่ยอมให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ผ่านเข้ามาได้ แต่จะกักเก็บความร้อนไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกไปซึ่งส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก 

  • ก๊าซเรือนกระจก ภาษาอังกฤษคือ Greenhouse Gases ก๊าซเหล่านี้มีความสำคัญต่อการรักษาอุณหภูมิของโลกให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตแต่กิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ได้ปล่อยก๊าซเหล่านี้ออกมาในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้ความร้อนถูกกักเก็บไว้จนส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของโลก

ภาวะเรือนกระจก (The Greenhouse Effect) ทำงานอย่างไร?

รู้จัก 7 ก๊าซเรือนกระจกตัวหลักที่ IPCC กำหนด

หลายคนอาจสงสัยว่าก๊าซเรือนกระจก มีอะไรบ้าง อ้างอิงจาก IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) ได้กำหนดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนไว้โดย 7 ชนิด ดังนี้

1. คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂)

คาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศและมีอิทธิพลต่อการสะสมพลังงานความร้อนมากที่สุด โดยมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ  CO₂สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันมนุษย์กลายมาเป็นตัวการหลักในการสร้างและปล่อย CO₂  คิดเป็นประมาณ 79% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ  เช่น การผลิตไฟฟ้า การขับขี่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล การบิน และอุตสาหกรรม 

2.  มีเทน (CH4)


       ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศโลกมากเป็นลำดับที่ 2 ส่วนใหญ่เกิดจากกระบวนการทางชีววิทยา ซึ่งบางส่วนมาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ก๊าซมีเทนจากจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ แต่ประมาณ 60% มาจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำฟาร์ม นาข้าว ก๊าซจากการย่อยอาหารของปศุสัตว์ หลุมฝังกลบขยะ และน้ำเสีย ล้วนเป็นแหล่งปล่อยก๊าซมีเทนที่สำคัญ ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มากถึง 25 เท่า




3. ไนตรัสออกไซด์ (N2O)


ไนตรัสออกไซด์มีศักยภาพในการทำให้โลกร้อนสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2​) ถึงเกือบ 300 เท่า และอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นานกว่า 100 ปี การปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น ภาคการเกษตร จากการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน กระบวนการทางอุตสาหกรรมเกิดจากการผลิตปุ๋ย วัตถุระเบิด และไนลอน หรือการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลจากการเผาถ่านหิน เครื่องยนต์ดีเซล และการเผาไหม้มวลชีวภาพ (Biomass)

4. ก๊าซไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCs)


ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอนเป็นก๊าซเรือนกระจกเกิดจากมนุษย์ถูกนำมาใช้ในระบบทำความเย็น เครื่องปรับอากาศ และระบบดับเพลิง นอกจากนี้ยังพบในยาสูดพ่นโรคหอบหืดบางชนิด เป็นกลุ่มก๊าซที่เป็นมลพิษทางอากาศ โดยมีอายุในชั้นบรรยากาศเฉลี่ย 15 ปี แม้ว่าปัจจุบันสาร HFCs คิดเป็นประมาณ 2% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด แต่ผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ได้หลายร้อยถึงหลายพันเท่า

5. ก๊าซเปอร์ฟลูออโรคาร์บอน (PFC)


ก๊าซเปอร์ฟลูออโรคาร์บอนเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยมีแหล่งที่มาหลักจากอุตสาหกรรมการผลิตอะลูมิเนียม นอกจากนี้ยังใช้ในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ การทำความสะอาดห้องไอระเหยเคมี (CVD) สารทำความเย็น สารป้องกันไฟไหม้ เป็นต้น PFC สามารถดักจับความร้อนในชั้นบรรยากาศได้ดี และไม่สลายตัวง่าย ๆ ดังนั้นเมื่อถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศแล้วจะคงอยู่ได้นานเป็น 100 ปี

6. ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ (SF6)


ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็นฉนวนสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์และสวิตช์ การทำฉนวนในเครื่องเร่งอนุภาค ก๊าซนี้จะช่วยป้องกันการเกิดประกายไฟและการลัดวงจรภายในอุปกรณ์ หลังจากที่อุปกรณ์เหล่านี้หมดอายุการใช้งานหรือถูกนำไปกำจัด หากไม่มีการกู้คืนก๊าซที่บรรจุอยู่ภายในอย่างถูกวิธี ก็จะถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศ

7. ก๊าซไนโตรเจนไตรฟลูออไรด์ (NF3)


ก๊าซไนโตรเจนไตรฟลูออไรด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากมนุษย์ อยู่ในกระบวนการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ รวมถึงจอโทรทัศน์และจอโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 17,200 เท่า

แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลักมาจากไหน? (เจาะลึกของประเทศไทย)



ผลกระทบของก๊าซเรือนกระจกต่อโลกและชีวิตของเรา

ภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศสุดขั้ว (Global Warming & Extreme Weather)

ผลกระทบโดยตรงของก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นคืออุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น เกิดเป็นภาวะโลกร้อนไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้นทำให้คลื่นความร้อนเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยในปี พ.ศ. 2567 เป็นปีที่ประเทศไทยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในรอบ 74 ปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 28.5 °C ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติในรอบ 30 ปี (พ.ศ. 2534–2563) ถึง 1.1 °C 

และก๊าซเรือนกระจกยังส่งผลให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้วทั้งฝนตกหนักที่ยาวนานขึ้นโดยอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพียง 1 °C ทำให้ชั้นบรรยากาศกักเก็บความชื้นได้เพิ่มขึ้น 7% ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมบ่อยขึ้น หรือแม้กระทั่งภัยแล้งก็จะทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน


ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่ง


ตามรายงาน Global Risks Report 2025 ของ World Economic Forum ระบุว่าระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเป็นผลพวงจากก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก และถูกจัดให้เป็นภัยคุกคามอันดับสามของโลกในทศวรรษหน้า ขณะที่แผ่นน้ำแข็งที่กรีนแลนด์กำลังละลายในอัตราที่น่าตกใจคือ 9,000 ล้านลิตรต่อชั่วโมง และมีการคาดการณ์ว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถึง 1–2 เมตร ในอนาคต 


ผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นต่อระบบนิเวศชายฝั่ง ได้แก่ การรุกล้ำของน้ำเค็มเข้าสู่แหล่งน้ำจืดที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ตลอดจนเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศสำคัญ เช่น ป่าชายเลนและแนวปะการัง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อความหลากหลายทางชีวภาพและโครงสร้างพื้นฐานทางธรรมชาติ

ขณะเดียวกัน ยังส่งผลกระทบต่อชุมชนและสังคม โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ น้ำท่วมรุนแรงขึ้นในช่วงน้ำขึ้น ตลอดจนผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนที่ต้องพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว การประมง และการเกษตร



ผลกระทบต่อความมั่นคงทางสุขภาพและอาหาร

อุณหภูมิที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดอาการเจ็บป่วยจากความร้อน เช่น โรคลมแดดและอาการอ่อนเพลียจากความร้อน นอกจากนี้ ก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่แค่สารพิษเดียวที่เราหายใจเข้าไป อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังเอื้อต่อการเพิ่มขึ้นของมลพิษที่เป็นอันตรายอื่น ๆ ซึ่งคุณภาพอากาศที่แย่ลงจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้

นอกจากนี้ ผลกระทบของก๊าซเรือนกระจกยังขยายไปถึงความมั่นคงทางอาหารด้วยเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและรูปแบบการตกของฝนส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตทางการเกษตร และอุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจทำให้เกิดแมลงศัตรูพืชและโรคพืชระบาด ซึ่งทำให้ความมั่นคงทางอาหารตกอยู่ในความเสี่ยง เมื่ออาหารหายากขึ้นและราคาสูง 


แนวทางการแก้ไข: เราจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างไร?

สำหรับบุคคลทั่วไป: 5 วิธีง่าย ๆ ที่คุณเริ่มได้วันนี้


1. ใช้พลังงานอย่างมีสติ: ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างยังคงใช้พลังงานในโหมดสแตนด์บายแม้จะปิดเครื่องแล้วก็ตาม และลดการเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้คงที่ ประหยัดพลังงานและลดก๊าซเรือนกระจก

2. การบริหารจัดการการใช้น้ำ: การประหยัดน้ำไม่ได้ช่วยแค่ลดค่าใช้จ่าย แต่ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย เช่น การเปลี่ยนชักโครกและฝักบัวเป็นรุ่นประหยัดน้ำ (Low-flow) จะช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้ในแต่ละครั้งลงได้มาก หรือการติดตั้งถังเก็บน้ำฝนเพื่อใช้รดน้ำต้นไม้หรือทำความสะอาดภายนอกบ้าน จะช่วยลดการใช้น้ำประปาที่ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและใช้พลังงานสูง

3. จัดการขยะอินทรีย์อย่างถูกวิธี: ขยะอินทรีย์ที่รวมกับขยะทั่วไปและถูกนำไปฝังกลบ จะปล่อยก๊าซมีเทนปริมาณมหาศาล สามารถเริ่มได้จากการแยกขยะเศษอาหารและนำไปทำปุ๋ยหมักสำหรับปลูกต้นไม้ในบ้านหรือนำไปทิ้งในจุดที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็ช่วยวิธีลดก๊าซเรือนกระจก ในชีวิตประจำวันได้

4. เลี่ยงการซื้อเสื้อผ้า Fast Fashion: อุตสาหกรรมเสื้อผ้าแบบ Fast Fashion ใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมหาศาล และทำให้เกิดขยะจำนวนมาก การเลือกซื้อเสื้อผ้าคุณภาพดีที่ใช้ได้นาน หรือซื้อเสื้อผ้ามือสองจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้

5. สนับสนุนบริษัทที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม: ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการใด ๆ ควรพิจารณานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทนั้น ๆ การสนับสนุนธุรกิจที่มีความยั่งยืนจะช่วยส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


สำหรับภาคธุรกิจ: เริ่มต้นวัดและลด Carbon Footprint


Carbon Footprint คืออะไร?


Carbon Footprint คือ ปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่บุคคล องค์กร หรือกิจกรรมหนึ่ง ๆ ปล่อยออกมาซึ่งมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยธุรกิจควรมีการวัด Carbon Footprint ที่เกิดขึ้นทั้งโดยตรงและโดยอ้อมจากกิจกรรมต่าง ๆ ตาม Life Cycle ของผลิตภัณฑ์ เพื่อควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ลดความเสี่ยง และ เพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน ในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย


เข้าใจ Scope 1, 2 และ 3 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอน ฉบับง่ายสำหรับองค์กร


การจัดหมวดหมู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตาม Scope 1, 2 และ 3 เป็นวิธีที่บริษัทใช้เพื่อทำความเข้าใจและจัดการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของตนเอง โดยถูกกำหนดขึ้นโดย GHG Protocol ซึ่งเป็นมาตรฐานการบัญชีด้านก๊าซเรือนกระจกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก 


  • Scope 1: การปล่อยก๊าซโดยตรงจากบริษัท (Direct Emissions) 

การปล่อยก๊าซในหมวดหมู่นี้มาจากแหล่งกำเนิดที่บริษัทเป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยตรง และมักจะเป็นส่วนที่บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซได้ง่ายที่สุด เช่น การใช้เชื้อเพลิงจากยานพาหนะของบริษัท หรือการใช้เชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต

  • Scope 2: การปล่อยก๊าซทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Indirect Emissions from Energy)

การปล่อยก๊าซในหมวดหมู่นี้เกิดขึ้นจากการผลิตพลังงานที่บริษัทซื้อมาใช้ เช่น ไฟฟ้า ไอน้ำ ความร้อน หรือความเย็น โดยที่แหล่งกำเนิดไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท แต่การปล่อยก๊าซจะถูกนับเป็นของบริษัทผู้ซื้อ เช่น การใช้ไฟฟ้าที่ซื้อมาจากบริษัทการไฟฟ้าเพื่อเปิดไฟ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องปรับอากาศในอาคารสำนักงานและโรงงาน

  • Scope 3: การปล่อยก๊าซทางอ้อมจากห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด (Other Indirect Emissions)


การปล่อยก๊าซในหมวดหมู่นี้มีความซับซ้อนและมีสัดส่วนมากที่สุด โดยครอบคลุมการปล่อยก๊าซทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของบริษัทแต่ไม่ได้อยู่ใน Scope 1 หรือ 2 การปล่อยก๊าซเหล่านี้มาจากแหล่งที่บริษัท ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยตรง ทั้งในส่วนต้นน้ำและปลายน้ำ เช่น การเดินทางไป-กลับที่ทำงานของพนักงาน หรือการจัดการผลิตภัณฑ์เมื่อสิ้นอายุการใช้งาน เป็นต้น


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ก๊าซเรือนกระจกกับฝุ่น PM2.5 เกี่ยวข้องกันไหม?


ก๊าซเรือนกระจกและฝุ่น PM2.5 มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก เพราะมีแหล่งกำเนิดร่วมกัน คือ การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและกิจกรรมการเผาไหม้อื่น ๆ ทั้งสองอย่างนี้จึงมักเกิดพร้อมกัน และการลดการเผาไหม้เพื่อแก้ปัญหาหนึ่งก็มักจะช่วยอีกปัญหาหนึ่งได้ด้วย

การปลูกป่าช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้จริงหรือ?


 การปลูกป่าช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้จริง ข้อมูลจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมระบุว่า ต้นไม้ 1 ต้นสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 9-15 กิโลกรัมต่อปี และยังสามารถดักจับฝุ่นและมลพิษในอากาศได้โดยเฉลี่ยประมาณ 1.4 กิโลกรัมต่อปีอีกด้วย


Net Zero เกี่ยวข้องกับก๊าซเรือนกระจกอย่างไร?

Net Zero เกี่ยวข้องกับก๊าซเรือนกระจกโดยตรง เนื่องจาก ความหมายของ Net Zero คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยปริมาณก๊าซที่ถูกปล่อยออกมาจะถูกดูดซับหรือกำจัดออกไปจากบรรยากาศในปริมาณที่เท่ากัน ทำให้ไม่มีการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกสุทธิในชั้นบรรยากาศอีกต่อไป

บทสรุป: อนาคตโลกอยู่ในมือเราทุกคน

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่ใหญ่และซับซ้อน ส่วนใหญ่แล้วการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาจากธุรกิจขนาดใหญ่และอุตสาหกรรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนทั่วไปหรือผู้ประกอบการ SME จะทำอะไรไม่ได้ ในความเป็นจริงแล้วทุกการกระทำของเรามีพลังในการสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือในฐานะเจ้าของธุรกิจ SME ที่ตั้งใจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกการตัดสินใจเล็ก ๆ เหล่านี้จะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจขนาดใหญ่ต้องปรับตัวและหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในที่สุดเพราะท้ายที่สุดแล้ว การสร้างโลกที่น่าอยู่ล้วนมาจากความร่วมมือของทุกคนจากทุกภาคส่วน


ข้อมูลเพิ่มเติม

  1. greenhouse gas สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก https://www.britannica.com/science/greenhouse-gas

  2. ความทะเยอทะยานของไทย ยกระดับเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 60% สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก https://hub.mnre.go.th/th/knowledge/detail/66096

  3. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ของไทย สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก https://epo04.pcd.go.th/th/news/detail/144165

  4. How climate change worsens heatwaves, droughts, wildfires and floods สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก https://www.bbc.com/news/science-environment-58073295

  5. How Do Greenhouse Gases Affect Humans? สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก https://greenpacks.org/how-do-greenhouse-gases-affect-humans/

  6. Sea level rise: Everything you need to know สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก

https://www.weforum.org/stories/2025/03/rising-sea-levels-global-threat/

  1. 35 Ways to Reduce Your Carbon Footprint สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก

https://www.constellation.com/energy-101/energy-innovation/how-to-reduce-your-carbon-footprint.html

  1. Scope 1, 2, and 3 Emissions Explained สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 จาก https://www.carbonneutral.com/news/scope-1-2-3-emissions-explained


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ไขปริศนาก๊าซเรือนกระจก พร้อมวิธีลดโลกร้อนฉบับเข้าใจง่าย

ไขปริศนาก๊าซเรือนกระจก พร้อมวิธีลดโลกร้อนฉบับเข้าใจง่าย

ปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในปัจจุบันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลกแม้แต่พวกเราที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็สามารถสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนกว่าเดิม…
pin
2 | 17/09/2025
รีวิว 5 ระบบ CRM ที่ดีที่สุดสำหรับ SME (2568) | เน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า เพิ่มยอดขาย

รีวิว 5 ระบบ CRM ที่ดีที่สุดสำหรับ SME (2568) | เน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า เพิ่มยอดขาย

การรักษาลูกค้าเก่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจไม่แพ้กับการหาลูกค้าใหม่ เพราะลูกค้าเก่า คือ สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของธุรกิจ โดย BIA/Kelsey…
pin
5 | 29/08/2025
ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2568นายไชยฤทธิ์…
pin
12 | 14/08/2025
ไขปริศนาก๊าซเรือนกระจก พร้อมวิธีลดโลกร้อนฉบับเข้าใจง่าย