แม้ดูเหมือนหลอกตัวเองไปบ้าง แต่ทราบหรือไม่ว่า การยิ้ม (แม้จะปลอมๆ ก็เถอะ) มันช่วยให้จิตใจเราเข้มแข็งและกลับมาสู่สภาพอารมณ์ปกติได้เร็วขึ้น เพราะการยิ้มนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนความรู้สึกที่มีความสุขและความสนุกสนาน คนเราต่างมีเหตุผลมากมายที่จะยิ้ม อาจยิ้มเพื่อทักทายผู้อื่น ยิ้มเพื่อที่แสดงออกทางอารมณ์ที่รู้สึก ยิ้มให้กับความไม่สมหวัง ยิ้มรับทุกเรื่องราวที่จะผ่านเข้ามา เพราะรอยยิ้มไม่ได้มอบเพียงความรู้สึกที่ดีให้กับตัวผู้ยิ้มและคนรอบข้างเท่านั้น การยิ้มยังอาจช่วยสร้างสุขภาพกาย สุขภาพจิต แถมอาจทำให้อะไรๆ มันดีขึ้นด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ยิ้มเสริมสร้างสุขภาพทางอารมณ์
ตอนยิ้ม ร่างกายจะผลิตสารสื่อประสาทที่เป็นประโยชน์ออกมาหลากหลายชนิด
หนึ่งในนั้นคือ เอ็นโดรฟิน หรือที่เรียกกันว่า สารแห่งความสุข
สารชนิดนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณมีความสุขเท่านั้น
แต่ยังสามารถออกฤทธิ์เป็นยาบรรเทาอาการปวดได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีสารเซโรโทนินที่ช่วยต้านความเศร้าและช่วยปรับให้อารมณ์ดีขึ้น
นอกจากนี้ การยิ้มยังช่วยลดความเครียด ซึ่งอาจหมายถึงสุขภาพที่ดีขึ้น
และชีวิตที่ยืนยาวขึ้นด้วย
ยิ้มแล้วไม่แก่ ...ก่อนวัย
เรื่องนี้คงได้ยินบ่อย กล้ามเนื้อบนใบหน้าจะถูกใช้เมื่อเกิดรอยยิ้ม
ไม่ว่าจะเป็นปาก แก้ม ดวงตา ขากรรไกร และคอ
โดยการขยับอวัยวะเหล่านี้คล้ายกับเป็นการบริหารใบหน้า
ซึ่งอาจช่วยให้ใบหน้านั้นดูอ่อนกว่าวัย
นอกจากใบหน้าเปื้อนยิ้มจะเป็นสิ่งที่สวยงามและน่ามองแล้ว
ใบหน้านั้นยังอาจทำให้คุณเป็นคนที่น่าจดจำอีกด้วย
มีนักวิจัยพบว่าสมองนั้นตอบสนองและจดจำใบหน้าที่ยิ้มแย้มมากกว่าใบหน้าในอารมณ์ปกติ และยังมีการศึกษาที่พบว่ารอยยิ้มนั้นสามารถสร้างแรงดึงดูดและทำให้ผู้หญิงดูสวยขึ้นอีกด้วย รอยยิ้ม ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และทำให้คนรอบข้างมีอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วย และการยิ้มให้กันระหว่างเพื่อนร่วมงานยังอาจมีส่วนช่วยทำให้การทำงานร่วมกันนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ยิ้มช่วยให้คุยเรื่องงานราบรื่น
ข้อเท็จจริงจากรายงานทางการแพทย์ที่ระบุว่า
รอยยิ้มนั้นอาจส่งผลต่อชีวิตมากกว่าที่คุณคิด ไม่ใช่แค่เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก
สุขภาพ หรือความสัมพันธ์ที่รอยยิ้มอาจช่วยได้ แต่ยังอาจรวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วยในการเจรจาเรื่องงานหรือธุรกิจ
เสน่ห์ของรอยยิ้มจะมัดใจผู้พบเห็น
กลับกันการทำหน้าตาบูดบึ้งและดูเครียดอาจทำให้การสนทนานั้นมีผลลัพธ์ไม่ดีสักเท่าไหร่
แต่ในทางกลับกันรอยยิ้มที่พอดี ไม่ต้องยิ้มกว้างมาก(มันจะดูน่ารำคาญไปหน่อย) มอบให้กับคู่สนทนาอาจเป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจได้
อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าการฝืนยิ้มก็อาจช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ แต่การยิ้มอย่างใจจริงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
จึงควรหัดและเรียนรู้วิธีการยิ้มด้วยกล้ามเนื้อทุกส่วนบนใบหน้าโดยเฉพาะดวงตา
ที่อาจทำให้รอยยิ้มฝืน ๆ นั้นดูจริงใจมากยิ่งขึ้น
ยิ้มเข้าไว้ในทุกสถานการณ์ที่สามารถทำได้และแบ่งปันรอยยิ้มให้กับคนรอบข้าง
เพื่อสร้างความรัก ความสุข และความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน
ดังนั้นไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำคุณไม่อยากยิ้ม
...แต่ยิ้มเถอะ อย่างน้อยก็ยิ้มให้กับโลกใบนี้
จิตวิทยา101 การจัดการอารมณ์พื้นฐาน