การทำธุรกิจ Startup ก็เหมือนกับการทำธุรกิจทั่วๆ ไป แต่แตกต่างกันตรงที่สตาร์ทอัพเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว คุ้มค่า ขยายได้แบบไม่มีขีดจำกัด และที่สำคัญต้องเป็นการลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนสูงมากกลับมา ด้วยเหตุนี้เองทำให้นักธุรกิจมากมาย ทั้งรุ่นเล็ก และรุ่นใหญ่ ต่างหันมาให้ความสนใจในกระแสของ Startup จำนวนมาก และเกิดเป็น Startup Fever ขึ้นในบ้านเรา
แต่เพราะการทำธุรกิจทุกอย่างนั้นย่อมมีความเสี่ยงตามมา ไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จเสมอไป โดยเฉพาะสตาร์ทอัพที่มีเงื่อนไขเยอะอย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น ยิ่งทำให้มีโอกาสสำเร็จลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดถึงขนาดมีคนกล่าวว่าสตาร์ทอพั 10 รายจะมีคนที่สำเร็จออกมาเป็นธุรกิจให้ใช้งานได้จริง และอยู่รอดเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าใน 1 รายนั้นเขามี 5 องค์ประกอบหลักที่คอยผลักดันเขาเหล่านี้เอาไว้ให้ประสบความสำเร็จ!
1.มีแนวคิดใหม่ไม่ซ้ำใคร อันดับแรกคุณต้องเริ่มต้นทำธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร แตกต่าง และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน มีความน่าสนใจ และที่สำคัญต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนส่วนใหญ่ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องสดใหม่ แต่ต้องใช้งานได้จริง
ยกตัวอย่างเช่น Grab ที่เข้ามาแก้ปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่ประสบกับ Taxi ไม่รับ ส่งแก๊ส หรือคิดแบบเหมาจ่าย ซึ่ง Grab มีระบบรีวิวที่จะตัดคะแนนคนขับเมื่อทำผิดกฎ มีประวัติคนขับให้ตามตัวง่าย ไม่ต้องกลัวมีปัญหาภายหลัง และมีคูปองส่วนลดต่างๆ มากมาย ทำให้ทุกคนต่างเทใจให้กับแนวคิดใหม่นี้นั่นเอง
2.มีทีมงานที่ไว้ใจได้และมากความสามารถ สตาร์ทอัพกลัวอยู่อย่างหนึ่งก็คือ กลัวการโดนขโมยไอเดีย ซึ่งคุณจะเห็นได้เลยว่าสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ที่มีไอเดียดีๆ จะเก็บตัว และพัฒนาสิ่งนั้นจนกว่าจะเสร็จเรียบร้อยและพร้อมที่จะขยับขยายอย่างรวดเร็ว ถึงจะนำออกมาโปรโมตสู่สาธารณะ เพราะเขาทราบดีว่าถ้าบอกถึงไอเดียที่มีออกไป ก็จะมีคนที่พร้อมจะขโมยและทำตามเลียนแบบทันที
ซึ่งมันเป็นปกติของการทำธุรกิจ ดังนั้นเราจึงจะเห็นว่าสินค้าทุกชิ้นต้องมีคู่แข่งอยู่เสมอ ซึ่งพนักงานในทีมที่ไว้ใจได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ และต้องเป็นคนที่มากความสามารถ ทำหลายสิ่งหลายอย่างได้พร้อมๆ กันในคนเดียว
เนื่องจากสตาร์ทอัพเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยคนจำนวนน้อยนิดให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ การลดต้นทุนด้วยการจ้างคนมากความสามารถไปเลยก็จะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้ไว ไกล และใกล้เคียงความสำเร็จมากที่สุด
3.มีการวางแผนธุรกิจอย่างรัดกุม สิ่งสำคัญต่อมาคือเรื่องการวางแผนว่า ธุรกิจจะทำเกี่ยวกับอะไร กลุ่มลูกค้าคือใคร ขายช่องทางไหน สร้างรายได้ยังไงบ้าง กลยุทธ์เริ่มต้นเป็นยังไง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้มองเห็นภาพที่สตาร์ทอัพของคุณกำลังจะเดินไปได้ง่ายขึ้น ธุรกิจที่จะทำต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนได้
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การคิดเอง แต่เป็นการทดสอบตลาดมาแล้ว และมั่นใจว่าการพัฒนามันต่อไปจะสามารถขายได้จริงและมีคนพร้อมใช้งาน
4.มีเงินลงทุนที่เพียงพอ ข้อนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ยากลำบากเท่าไหร่ เพราะสตาร์ทอัพส่วนมากคือ การทำงานที่ใช้เงินน้อยให้เกิดมูลค่ามหาศาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วที่สำคัญต่อให้คุณเองไม่มีเงินทุน แต่คุณมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี มีความมั่นใจว่าธุรกิจของคุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน คุณก็ยังสามารถนำไอเดียที่มีไป Pitching ตามเวทีต่างๆ ได้เลยทันที
มีนักลงทุนมากมายที่พร้อมจะเสนอเงินให้คุณทำธุรกิจตัวนี้ให้ประสบความสำเร็จ และนอกจากนี้การจัดการเรื่องระบบบัญชีหลังบ้านเองก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง อย่าให้มีการใช้จ่ายอย่างสูญเปล่าเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
5.รอเวลาให้ทุกอย่างเข้าที่ นอกจากทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว เรื่องของจังหวะ เวลา หรือโชคชะตา ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน เพราะลองนึกภาพถ้าคุณต้องเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย ตามอย่างประเทศเพื่อนบ้านแบบสิงคโปร์ ใน 6-7 ปีก่อน คุณเองก็อาจจะได้รับความไม่ไว้วางใจ มีคนใช้บริการน้อย และกลัวว่าคุณจะหลอกเอาข้อมูล
เพราะสมัยนั้นทั้งวิทยาการต่างๆ อินเทอร์เน็ต และการซื้อ ขาย หรือทำธุรกิจด้วยระบบออนไลน์ยังเป็นเรื่องใหม่มาก แต่ทุกวันนี้ทุกคนได้เรียนรู้และพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ทำให้การทำธุรกิจคุณแตกต่างจากวันเก่าๆ อย่างสิ้นเชิง
ทั้งหมด 5 ข้อนี้ก็เป็นองค์ประกอบหลักๆ ในการผลักดันสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ครบ การจะเป็น 1 ในผู้อยู่รอดของวงการสตาร์ทอัพก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เรียนรู้จากผู้นำ ก่อนวางเดิมพันธุรกิจของเราเอง
สร้างแพลตฟอร์มค้นหาร้านค้าเพิ่มยอดขายให้ SMEs
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333