อีกหนึ่งงานวิจัยสู่นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความรีบเร่งของคนเมือง ที่บางครั้งละเลยเรื่องอาหารการกินและมักลงเอยที่ฟาสต์ฟู้ด ซึ่งไม่ค่อยมีประโยชน์แถมรับประทานมากไปส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดย Taste’n Time เป็นนวัตกรรมพุดดิ้งที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ แถมรสชาติอร่อย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากแนวคิดของ ดร.บวร วิเชียรสินธุ์ กรรมการผู้จัดการ
บริษัท วิชไวย์ กรุ๊ป จำกัด ที่เห็นว่าจากการที่ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหารที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโลก
จึงมีไอเดียที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์พุดดิ้งและสมูทตี้พร้อมรับประทานจากผลไม้ไทยที่มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการใน
1 มื้อครบ ที่สำคัญรับประทานง่ายกว่าการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสียอีก
จึงเข้ามาคุยกับนักวิจัยที่สถาบันโภชนาการฯ จากนั้นใช้เวลาปีกว่าทำการวิจัย Taste’n Time พุดดิ้ง ประสบความสำเร็จ
ดร.บวร เล่าว่า
กว่าจะประสบความสำเร็จต้องย้อนกลับไปเมื่อ
3-4 ที่ผ่านมา หลังจากกลับมาจากไปดูงานต่างๆ และอาหารการกินจากต่างประเทศ
มองว่าประเทศไทยควรจะมีอาหารที่ปลอดภัยและประโยชน์อยู่ในถุงเพาซ์ที่พกพาสะดวก
จึงได้ร่วมมือกับสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล ทำการวิจัยพัฒนาอาหารสิ่งที่เราต้องการ
โดยใช้เวลากว่า 1 ปีจึงสำเร็จออกมาในรูปแบบพุดดิ้งที่มีคุณค่าสารอาหารมากมาย
โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการในปี 2560 ในรูปแบบ Packaging Version เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี ทว่าตลาดภายในประเทศกลุ่มผู้บริโภคไทยยังไม่ได้รับความเชื่อมั่นเท่าไรนัก จึงได้ทำการวิจัยความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยว่ามีความต้องการอาหารประเภทนี้อย่างไร พร้อมกับตั้งกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อจะได้ทำการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น
เจาะตลาดเด็กวัยกำลังโต –
กลุ่มลดน้ำหนัก
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเน้นที่กลุ่มเด็กวัยเจริญเติบโต
และกลุ่มผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและสุขภาพ ทั้งสองตลาดดังกล่าวคาดว่าไปได้สวยแน่โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยเจริญเติบโต
จึงออกผลิตภัณฑ์พุดดิ้งรสช็อคโกแลตสารอาหารครบถ้วน โดยตัวพุดดิ้งจะมีรสชาตช็อคโกแลต
เนื้อสัมผัสนุ่ม ละมุน
อร่อยคล้ายกับพุดดิ้งนมญี่ปุ่น ไม่มีน้ำตาลเทียม ไม่มีสารกันบูด
ไม่มีไขมันทรานส์ แต่เต็มไปด้วย 5 สารอาหารหลักคือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันชนิดดี วิตามิน และเกลือแร่ ที่จําเป็นในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเด็กในวัยเจริญเติบโต
และให้พลังงานต่อร่างกายอย่างรวดเร็ว เหมาะกับเด็กๆที่ชอบทํากิจกรรมรวมทั้งผู้ใหญ่ที่ต้องการลดน้ำหนัก
แต่การอดอาหารเพื่อให้ร่างกายผอมลงนั้นส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก
ดร.บวร ตั้งเป้าไว้ว่า “เราต้องการเป็น Smart Solution ให้ผู้คนประสบความสำเร็จในการลดนํ้าหนัก เปลี่ยนแนวคิดผิดๆ ในการลดนํ้าหนัก โดยเฉพาะเรื่องการอดอาหาร เราต้องการสร้าง Happy Diet ดูแลรูปร่างด้วยการกินของอร่อย เพราะเรารู้ว่า ความหิว คืออุปสรรคต้นๆ ของการลดนํ้าหนัก และที่สำคัญ Happy Diet ของ Taste'n Time ต้องมีประโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ จึงได้ใส่ Innovative Nutrition ที่ส่งเสริมให้การลดนํ้าหนักเป็นเรื่องง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สําคัญปลอดภัย เช่น ตัวช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ คัดกรองไขมันส่วนเกิน ช่วยลดการดูดซมแป้งและนํ้าตาล ทั้งเข้าใจว่าผู้หญิงต้องการดูแลรูปร่างเพื่อสุขภาพและความสวยงาม Taste'n Time ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้ ด้วยสารอาหารในการต้านอนุมูลอิสระด้วยเช่นกัน”
เตรียมวางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ
Taste'n Time มีผลิตภัณฑ์พุดดิ้ง 2
รสชาติใหม่ล่าสุด เตรียมที่จะวางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วประเทศ ซึ่งเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่
28 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป โดยระยะแรกจะได้วางขายสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 5,000 สาขา หลังจากนั้นภายใน 3 เดือนข้างหน้าจะขยายสาขาไปทั่วภูมิภาค
ดร.บวร มั่นใจว่าสินค้าจะได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจาก Taste’n Time เป็นพุดดิ้งเสริมโชนาการครบ 5 หมู่ พกพาไปไหนมาไหนสะดวกสบาย ที่สำคัญรับประทานง่าย เพียงแค่เปิดฝาก็สามารถกินได้ทันที อาจจะกินรองท้องในช่วงเช้าที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาทานข้าว หรืออาจจะทานระหว่างวันก็ได้ ซึ่งในชั่วโมงเร่งรีบ Taste’n Time ถือว่าสินค้าตอบโจทย์ประชาชนชาวไทยเพราะเป็นอาหารรับที่รับประทานสะดวก ตลอดทั้งมีประโยชน์และปลอดภัยต่อร่างกาย ปราศจากกลูเตน และสารกันบูด สามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
Taste’n Time ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมความสามารถที่คนไทยคิดค้นวิจัยขึ้นมาเอง
ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ที่จะสมารถตอบโจทย์เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบในสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดี