ประเด็นรักษ์โลกยังคงเป็นกระแสที่ปลุกคนยุคนี้ให้ใส่ใจต่อสภาวะของโลกมากขึ้น
ไม่เฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แต่หมายถึงทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้
บริษัท Messe Frankfurt ซึ่งเป็นบริษัทออแกไนซ์เซอร์ระดับโลก
ได้จัดงานแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีชื่อว่า Heimtextil
2020 ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ในงานดังกล่าวมีผู้ประกอบการด้านสิ่งทอจากหลายประเทศเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า รวมไปถึงผู้ประกอบการสิ่งทอจากปากีสถานเข้าร่วมด้วย ซึ่งผู้ซื้อจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปโดยเฉพาะที่เป็นกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ ให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของปากีสถานอย่างมาก ตัวอย่างเช่น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
กลุ่มนักออกแบบจากปากีสถานนำเสนอผ้าและการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
50 ปีของการจัดนิทรรศการ โดยภายในงาน Heimtextil 2020 และสำนักงานพัฒนาการค้าของปากีสถาน ได้จัดพื้นที่สินค้าสำหรับชาวปากีสถาน
โดยมีบริษัทในปากีสถานเข้าร่วมทั้งหมด 231 บริษัทและผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมถึง 56 ราย
อีกทั้งอุตสาหกรรมสิ่งทอของปากีสถาน ยังได้ถูกกล่าวถึงภายในงานนิทรรศการดังกล่าวว่า
เป็นตัวอย่างของการปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
นาง Lucie Brigham หัวหน้าสำนักงานความร่วมมือแห่งสหประชาชาติ
(UNOP) ได้กล่าวชื่นชมถึงการริเริ่มของอุตสาหกรรมสิ่งทอปากีสถาน
โดยเฉพาะผู้ผลิตผ้าเดนิม (Denim) ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระหว่างการแถลงข่าวเปิดงาน
Heimtextil 2020 อีกด้วย
ทั้งเน้นย้ำว่า
อุตสาหกรรมสิ่งทอมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ
และภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอของปากีสถาน ควรจะเดินหน้ากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพื่อปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของประเทศ
อุตสาหกรรมของปากีสถานกำลังก้าวไปสู่แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม นาง Lucie ได้เรียกร้องให้มีการส่งเสริมและสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและกลุ่มอุตสาหกรรม
เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอของปากีสถาน
และได้ย้ำว่าสหประชาชาติจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับประเทศสมาชิก
ซึ่งรวมถึงปากีสถาน เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศโดยรวม
ในขณะเดียวกัน นาย Olaf Schmidt รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีสิ่งทอและสิ่งทอแห่งบริษัท
Messe Frankfurt Textiles and Textile Technologies บริษัทผู้จัดงาน
Heimtextil 2020 กล่าวภายในงาน Heimtextil 2020 ว่า การเดินทางไปสู่การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นท้าทายมากที่สุดของอุตสาหกรรมสิ่งทอในหลายประเทศในขณะนี้
และยังกล่าวเสริมว่า เมื่อพูดถึงประเทศปากีสถาน ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอของปากีสถาน จะขึ้นชื่อว่ามีความก้าวหน้าในการพัฒนาและอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ตัวแทนบริษัทส่งออกในปากีสถาน
เน้นว่าการแข่งขันในตลาดโลกนั้นเริ่มมีความง่ายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ประกอบการ ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเนื่องจากขายสินค้าได้ราคาที่ดี
โดยเห็นได้จากตัวอย่างของนาย Mohammad Asif ผู้อำนวยการฝ่ายแฟชั่นศิลปะกล่าวว่า
บริษัทของเขาได้ผลิตผ้าเช็ดตัวและส่งออกมาประมาณ 20 ปี
โดยมีผู้ซื้อรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งอธิบายว่า
ลูกค้าของบริษัทต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะทำให้กระบวนการของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เขายังเสริมว่าบริษัทของเขาลงทุน 40
ล้านรูปีปากีสถานในช่วงสองปีที่ผ่านมา เพื่อทำให้กระบวนการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และได้รับใบรับรองผู้ผลิตอย่างยั่งยืนเมื่อปีที่ 2562 จาก Oeko-Tex ซึ่งเป็นสถาบันทดสอบสิ่งทอ (The
International Association for Research and Testing in the Field of Textile
Ecology: Oeko) จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่รับรองมาตรฐานฉลากสากลที่เป็นที่ยอมรับและเทียบเคียงมาตรฐานสากล
ว่าการผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะไม่มีอันตรายต่อผู้ซื้อ
ทั้งเขาชี้ให้เห็นว่าความต้องการผลิตภัณฑ์“
Made in Green” เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยฉลาก Made
in Green เป็นฉลากที่ออกโดย Oeko-Tex สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอ
ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งที่ผ่านการรับรองได้รับการทดสอบปราศจากสารอันตราย
ขณะที่ นาย Mohammad Imroz Iqbal ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดของบริษัท
Yunus Textile Director ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในอุตสาหกรรมสิ่งทอปากีสถาน
กล่าวว่า ภายใต้ใบอนุญาตผลิตสีเขียว ผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) หรือฉลาก Made in Green นั้น
น้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิตจะต้องถูกกำจัดด้วยวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยตั้งแต่เส้นด้าย ตลอดจนเส้นใย สีย้อม และเคมีภัณฑ์
จะต้องผ่านกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นาย Iqbal กล่าวเสริมว่า การมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก และบริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น จะได้รับความนิยมมากกว่าบริษัทที่พึ่งพาวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม เนื่องจากบริษัทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ปรับปรุงการเข้าถึงตลาดและพัฒนาสินค้าของตนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้
นาย Mehtabuddin Chawla ประธานอุตสาหกรรมของบริษัท Al-Karam
Towel Industries ในปากีสถาน เสนอไว้ว่า
กระบวนการและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะเป็นหนทางเดียวที่อุตสาหกรรมสิ่งทอของปากีสถานจะอยู่รอดในตลาดโลกได้
โดยผู้ซื้อจะบังคับให้ผู้ผลิตใช้กระบวนการและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่อยู่ในฟาร์มถึงชั้นวางสินค้า
ทั้งนี้ เขาเผยว่า บริษัทฯ
กำลังทำงานร่วมกับเกษตรกรปลูกฝ้าย เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ
นาย Chawla เน้นว่าอุตสาหกรรมสิ่งทองตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
ต้องเปลี่ยนไปสู่แนวคิด Made in Green และต้องได้สนับสนุนจากรัฐบาล
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการขับเคลื่อนการผลิตสีเขียวได้
นับเป็นกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจที่ธุรกิจสิ่งทอไทยที่เผชิญการแข่งขันที่สูงอาจนำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับสำหรับธุรกิจได้
เพราะอาจจะแข่งง่ายขึ้นก็เป็นไปได้ เพราะยุคนี้เทรนด์รักษ์โลกมาแรง
แหล่งอ้างอิง : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี