ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ทุกฝีก้าว
อาชีพการงานคงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้หลายฝ่ายทำนายว่าอีกไม่เกิน
10 ปีข้างหน้า มนุษย์จะไม่ได้ทำงานตรงสายงานที่เรียนจบมา
เหตุนี้เด็กยุคใหม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านเทคโนโลยี แม้ว่าจะมีเทคโนโลยี “AI-Machine Learning” เข้ามามีบทบาท ก็ไม่สามารถแย่งงานมนุษย์ไปได้
แต่มนุษย์เองก็ต้องเร่งปรับตัว อย่าล็อกตัวเองไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะทำให้ชีวิตพลาดโอกาสได้งานดีๆ
เนื่องจากการทำงานในยุคนี้จะเป็นยุคของคนเจเนอเรชั่น Z ซึ่งจะเห็นได้ว่าองค์กรต่างๆ พยายามปรับตัวและออกแบบองค์กร เพื่อนำคนเจเนอเรชั่น Z เข้ามาทำงานโดยเฉพาะ เพราะงานทุกอย่างจะเกี่ยวเนื่องของเทคโนโลยีทั้งหมด ฉะนั้นไม่ว่าจะเลือกเรียนสาขาวิชาใดก็จะหนีไม่พ้นเรื่องการมีเทคโนโลยีเป็น skill set เป็นตัวตั้ง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สอดคล้องความคิดเห็นของ คุณวินิจ
ศิลามงคล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เคพีเอ็มจี ประเทศไทย จำกัด สะท้อนมุมมองว่า ความจริงตอนนี้ทุกองค์กรปรับตัวขนานใหญ่เพื่อนำคนเจเนอเรชั่น
Z เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ
5 ปีที่แล้ว
มีการคาดการณ์ว่าการทำงานในอนาคตจะทำงานนอกสำนักงาน หรือ work from
anywhere ด้วยการใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อกัน แต่กลับตาลปัดเมื่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด
19 เป็นตัวเร่งให้เกิดขึ้นเร็วขึ้น
โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาไปหมด
การทำงานก็ต้องเปลี่ยนไปตามโลกหมุนผ่าน ดังนั้นไม่ว่าจะเรียนสาขาใดก็ตามจำเป็นต้องเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีควบคู่ไปด้วย
จากผลการสำรวจพบว่ามีนักศึกษากว่า
50% ที่มีความชอบหรืออยากเรียนสาขาวิชานั้นๆ
และสามารถเรียนจบจนออกไปทำงานตามความต้องการแรกเริ่มได้
แต่สุดท้ายก็พบว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ
โดยมีการคาดการณ์ว่าอีกไม่ต่ำกว่า 10 ข้างหน้า
ผู้ที่อยู่ในแต่ละวิชาชีพจริงๆ จะไม่ใช่ผู้ที่สำเร็จการศึกษามาตรงสาย
ซึ่งถือเป็นเทรนด์ที่น่าเป็นห่วง ดังนั้นการเลือกเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
จำเป็นต้องฟังและหาข้อมูลให้มากและเพิ่มทักษะต่างๆ เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีการพูดถึงการเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์
(AI) และ Machine Learning ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเข้ามาทดแทนการใช้แรงงานมนุษย์
แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างก็ยังจำเป็นต้องใช้มนุษย์ ซึ่งคุณวินิจ ได้ให้ทัศนะความคิดเห็นส่วนตัวว่า
แรงงานมนุษย์ยังคงต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพียงอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น แต่หลายภาคอุตสาหกรรมเบายังคงต้องใช้มันสมองของมนุษย์
จึงมองว่าโอกาสในการสูญเสียงานจะมีไม่มากมายหนัก เพียงแต่จะเกิดตำแหน่งใหม่ๆ
ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้น
Soft Skill งานยุคใหม่ ไม่มีไม่ได้
ในมุมมองของ คุณวีรพล วีระโชติวศิน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ดไวซอรี่ จำกัด เห็นด้วยกับคุณวินิจ
เพราะมนุษย์ยังคงมีความจำเป็นต่อทุกภาคอุตสาหกรรม
แต่ต้องปรับตัวให้เข้ายุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลต่อสรรพสิ่งที่ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปไวมาก
ฉะนั้นทักษะที่อยากฝากไว้ คือ ต้องรู้จัก dynamic หรือการเคลื่อนที่-ยืดหยุ่น-เปิดกว้าง
โดยไม่ใส่แม่กุญแจหรือล็อคตัวเองไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น คืออย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าตัวเองต้องเป็นอะไร
แต่ต้องเข้าใจว่าตัวเองให้ความสำคัญหรือสนใจอะไรบ้าง เพราะโลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
และอาชีพในอนาคตก็มีอีกมากมายรองรับแรงงานมนุษย์
“ผลการสำรวจของหลายสำนักภาคธุรกิจจำนวนมาก ชี้ชัดว่าอาชีพทุกอาชีพนั้นมีวันหมดอายุ วิชาสาขาหลักตามที่เรียนอยู่ในคณะต่างๆ ในปัจจุบันนี้นั้นจะได้ใช้เพียงแค่ 1-2 ปีแรกของการทำงานในสถานที่แรกเท่านั้น ส่วนงานที่สอง สาม สี่ ห้า จะอาศัย Soft skill ทั้งนั้นในการทำงาน”
อยากให้คนรุ่นใหม่มองอาชีพใน 2 ภาพ ภาพแรก คือ อยากทำอะไร ต้องเก่งอะไรบ้างก็ให้ฝึกฝนไว้ แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอาชีพเหล่านั้นย่อมมีวันหมดอายุ จึงอยากให้มองอีกภาพด้วย นั่นคือตัวเรามีทักษะอะไรบ้าง หากไม่มีต้องฝึกฝนทักษะให้รู้แจ้งเห็นจริง เมื่อมีความสามารถ มีต้นทุน ย่อมได้เปรียบคนอื่น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยรองรับกับการทำงานในอนาคตด้วย