ผ่านการทำงานอย่างหนักมานับสิบๆ ปี
ก็มีกันบ้างที่เบื่องานที่ทำ เบื่อหลายๆ เรื่องที่เจอ
เบื่อบรรยากาศที่วนเวียนแบบเดิมๆ นั่นยิ่งทำให้เราท้อ แม้ไม่ถึงกับหมดไฟ
แต่เริ่มไม่สนุกกับสิ่งที่ทำอีกต่อไป ไม่อยากทำธุรกิจ แต่อยากใช้ชีวิต
เพราะแน่นอนว่าหากคุณเป็นคนที่รู้สึกว่าชีวิตนั้นแสนสั้น แต่ภาวะความจำเป็นในหลายด้านยังต้องทำในสิ่งที่ความจำเป็นเฉพาะหน้าบังคับให้ทำ
นี่เป็นเรื่องที่โหดร้ายไปแล้ว แต่กิจการหรืองานที่เพียรสร้างมาจะเอาอย่างไรต่อดี
ยิ่งถ้าเจอสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีด้วย อาจยิ่งทำให้หมดแรงไปเสียดื้อๆ ดังนั้นเรามาเรียนรู้การปรับสภาพอารมณ์ สภาพจิตใจให้มีแรงสู้ต่อท่ามกลางความน่าเบื่อหน่ายและความเป็นจริงอันโหดร้ายที่ต้องพอเจอ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ย้อนคิดทบทวนเป้าหมาย
จำช่วงแรกที่เราเริ่มทำธุรกิจได้มั้ย ?
จำได้หรือไม่ว่าเราตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร เป้าหมาย คือสิ่งปลุกเร้าชั้นดีช่วยให้เราฮึดสู้และอยากจะไปต่อ
สามารถเรียกแรงใจของเราให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง ลองนึกถึงเป้าหมายให้มากๆ
และถามตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วยว่า สิ่งที่เราได้ลงมือทำนั้น เดินทางมาถึงจุดที่เราตั้งเป้าไว้หรือยัง
เจตนารมณ์ในช่วงนั้นอาจช่วยกระตุ้นให้คุณกลับมาฮึกเหิมอีกครั้ง
เรียนรู้ที่จะอดทนและปล่อยว่าง
เชื่อว่ามีหลายๆ
เหตุผลที่ทำให้คนเราสามารถอดทนเพื่ออะไรบ้างอย่าง ถ้าสิ่งนั้นคุ้มค่ามากพอ
แต่ถ้าหากวันหนึ่งความอดทนนั้นเกิดขีดจำกัดที่สามารถควบคุมได้
อะไรหลายอย่างอาจระเบิดขึ้นได้ ดังนั้นเราต้องเอาหลักทางพุทธเข้าช่วย นั่นคือ ‘ปล่อยวาง’ หมายความว่าแม้จะต้องพบเจอสิ่งที่ไม่พึงต้องการ
เราอดทนแล้ว พยายามต่อสู้ดิ้นรนแล้ว แต่เหมือนมีหลายๆ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
ก็ต้องวางลง คือเมื่อพบเจอกับอุปสรรคลูกใหญ่จนรู้สึกท้อใจ โปรดอย่าได้รีบตัดสินใจอะไรลงไป
ปล่อยผ่านไปก่อน พร้อมกับบอกตัวเองให้อดทนรอ รอวันที่แรงใจกลับมาพร้อมสู้อีกครั้ง การให้
‘เวลา’ สำหรับการเริ่มต้นใหม่
ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
กำลังใจ มองไม่เห็นแต่ดีจริงๆ
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ
อีกทั้งการสร้างกำลังใจให้กับตัวเองก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ดังนั้นแล้ว
หากรู้สึกท้อใจ ท้อแท้ หรือหมดหวัง โปรดอย่าได้คิดในทางลบให้หมดกำลังใจเด็ดขาด
เพราะความคิดลบ หรือการคิดถึงสถานการณ์แย่ๆ มากจนเกินไป ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
แถมทำให้จิตใจเราแย่ลง ดังนั้นหยุดคิดลบ และมองหากำลังใจรอบๆ ตัวเรา
จากคนในครอบครัว จากมิตร เพื่อพูดคุย ปรึกษา ทำกิจกรรมที่ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น
หรือแม้แต่การสร้างกำลังใจให้ตัวเอง คือ การปรับเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ คิดในทางบวกเพื่อทำให้ตัวเองมีกำลังใจนั่นเองและพยายามอีกครั้ง
เราต้องผ่านไปได้
พัก ...สักระยะให้ร่ายกายพร้อมอีกครั้ง
ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ แม้หลักการทางศาสนาพุทธจะบอกว่า ‘ใจเป็นนาย
กายเป็นบ่าว’ แต่ถ้าบ่าวเหนื่อย
ใจก็คงไม่สบายเท่าไหร่นัก ดังนั้น คุณควรพัก เพื่อเติมพลังงานให้ชีวิต อย่างน้อยๆ
เราก็ควรที่จะให้เวลาสมองและจิตใจได้หยุดพักและผ่อนคลายลงบ้าง โดยอาจจะหันเหความสนใจของตัวเองด้วยการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ
เป็นกิจกรรมอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข
ให้สมองและจิตใจได้โฟกัสอยู่กับสิ่งอื่นแทนเรื่องเดิมๆ ลงชั่วขณะบ้าง
ปัญหามีไว้แก้ ...
มีนักธุรกิจท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ปัญหามี 2 แบบ แบบที่ 1 คือแก้ไขได้ และแบบที่ 2 คือแก้ไขอะไรไม่ได้ ดังนั้นอย่าเสียเวลาสำหรับปัญหาที่แก้ไม่ได้ และการแก้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถตัดทิ้งได้ แนะนำว่าให้ตัดปัญหาในแบบที่2 ทิ้งไป และเริ่มแก้ปัญหาในแบบที่ 1 เพราะหลังจากที่เราปรับสภาพร่างกายจนพร้อมที่จะสู้ต่อแล้ว ลองวิเคราะห์ดูว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นต้องแก้อย่างไร วางแผน และหาแนวทางแก้ไข จากนั้นค่อยๆ ลงมือทำตามแผนไปทีละขั้น เริ่มจากสิ่งที่สามารถทำได้ในตอนนี้ก่อน แล้วจึงค่อยทำทีละขั้นตอน และรอดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
สุดท้าย การจัดการวิธีคิดอย่างมีสติ
จะช่วยให้คุณผ่านเรื่องน่าเบื่อหน่ายและไม่พึงประสงค์ได้อย่างเข้มแข็ง
แต่อย่าหักโหมมากนัก คิดเสมอว่าเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต
เงินทองที่หาได้วันหนึ่งจะไม่ใช่ของเรา
ใช้ชีวิตอย่างสมดุลคือแนวทางที่ปราชญ์แห่งเซนบอกว่าคือหนทางหลุดพ้นที่แท้จริง