อาหารกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ปวดหัวตัวร้อนราวกับโดนพิษไข้รุมเร้า ที่เกิดจาก ‘สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อนร่วมงาน’ ที่พ่นพิษ สร้างความโกลาหลไม่หยุดหย่อน รู้ตัวอีกทีก็แสบร้อน ชีวิตปั่นป่วนไปหมดแล้ว มาทำความเข้าใจกับอาการเหล่านี้ เพื่อให้รู้ผลเสียที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งรู้ทันตัวเองไม่ให้ทำพฤติกรรมดังกล่าว จนสร้างความเสียหายให้แก่องค์กร เรามาวิเคราะห์สาเหตุกันก่อนว่า ทำไมเพื่อนร่วมงานที่เต็มไปด้วย ‘พิษร้าย’ จึงเป็นตัวอันตรายในที่ทำงาน
- เขาใส่ใจเฉพาะเรื่องส่วนตัว โดยคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง
-ไม่มองความเป็นทีม แทงข้างหลังวิพากษ์วิจารณ์และกล่าวโทษอย่างจงใจ
- นินทาและแพร่กระจายเรื่องส่วนตัวของคนอื่น
- เห็นด้วยในการประชุม แต่ไม่ทำตามหลังจากนั้น
- หวงความรู้ เพราะความอิจฉา
ทั้งดูเหมือนว่าปัญหาจะมีมากกว่าที่คิดเพราะพวกเขามักจะมีพฤติกรรมอื่นๆที่สร้างความวุ่นวายให้องค์กร และทำให้เพื่อนร่วมงานปวดหัวไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าจะเป็น...
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สร้างกระแสดราม่าโดยไม่จำเป็น
แทนที่จะเปิดเผยและพูดในสิ่งที่เป็นปัญหา
แต่พวกเขาชอบกลับชอบแสดงออกด้วยการนำพลังบวกและความคิดสร้างสรรค์ออกจากทีม
คนในทีมจึงเสียเวลาทำงานไปโดยเปล่าประโยชน์
เพื่อต้องคิดและวางแผนใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำให้ทีมมีปัญหา
พฤติกรรมที่ไม่ดีของเหล่าเพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหา
ทำให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆดูแย่ไปด้วย
จากการศึกษาพบว่า ทีมที่มีความซื่อสัตย์ ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของที่ทำงาน
จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าทีมที่มีปัญหาภายใน
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าความไม่มีประสิทธิภาพของทีมมีความเกี่ยวเนื่องอย่างมากกับภาพลักษณ์และผลลัพธ์
บ่อนทำลายคุณค่าของบริษัทและผู้นำภายในองค์กร
เพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหาเหล่านี้มักมีพฤติกรรมก่อให้เกิดการถากถางน้ำใจกันเองภายในองค์กร
และปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานอย่างไม่เท่าเทียมจนทำให้มีปัญหาต่างๆตามมามากมาย
ก่อให้เกิดความร้าวฉานของสัมพันธภาพ
มักจะหาโอกาสทำร้ายเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะนินทาลับหลัง ผลักเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆออกจากทีมเมื่อมีโอกาส
พยายามสร้างเรื่องเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมโดนเจ้านายเรียกพบ
หรือสร้างสถานการณ์แย่ๆบ่อยๆ แม้มันจะแย่...แต่ "อย่าเพิ่งหมดหวัง
ทางที่ดีกว่าเมื่อต้องรับมือกับเพื่อนร่วมงานเป็นพิษอยู่นี่แล้ว เราต้อง ...
ใช้ความจริงเข้าสู้
พยายามพูดคุยอย่างเปิดใจกับเพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหาของคุณ
และถ้าคุณไม่พยายามที่จะทำสิ่งพวกนี้
คุณจะไม่สามารถคงสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานได้เลย
คุณจะไม่สามารถเหมาเอาว่าคนที่มีปัญหากับคุณนั้น
เขาจะตื่นมาแล้วตระหนักถึงนิสัยไม่ดีของตนเอง ดังนั้นพยายามพูดคุยกันอย่างเปิดอก
โฟกัสไปที่พฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณ
และถามFeedback จากคนอื่นที่มีต่อคุณเช่นกัน
เพราะบางคนอื่นก็ไม่รู้ว่าพฤติกรรมของพวกเขานั้นจะส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไร
เล่นเกมให้เป็น
อย่ายอมโดนเอาเปรียบ
จงเล่นเกมและตอบโต้พวกเขาอย่างชาญฉลาด โดยกำหนดเป้าหมายของทีม
พร้อมทั้งรักษามาตรฐานผลงานให้มีคุณภาพเสมอ และพูดคุยเพื่อหาทางออกกับทีมที่สามารถช่วยเหลือคุณได้
คุณไม่ได้ทำงานคนเดียวหรอกนะจำไว้
บางอย่างต้องถึงมือหัวหน้า
แจ้งให้หัวหน้าของคุณทราบล่วงหน้าว่าทีมของคุณนัดประชุมเพื่อกำหนดบรรทัดฐานของทีม
พร้อมทั้งเริ่มจัดการกับพฤติกรรมและความขัดแย้งภายในทีมที่เกิดขึ้น
ควรเป็นการจัดการที่โปร่งใส
มีการแจ้งให้สมาชิกในทีมรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่
และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่อยากแพ้ ดูแลตัวเองดีๆ
อย่าปล่อยให้พฤติกรรมร้ายๆอาบไปด้วยยาพิษจนส่งผลเสียต่ออารมณ์และสุขภาพของคุณ หัดวางเฉยกับอะไรที่ไม่สร้างสรรค์ ทำเป็นมองข้ามมันเสียบ้าง และถ้าคุณต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของคุณและเพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหาเหล่านี้ ทางเราขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มีอำนาจพอที่จะตัดสินใจ จะเป็น HR ก็ได้ หรือจะหัวหน้าแผนกก็ดี แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าทำทุกอย่างจนหมดแล้ว พิจารณาเรื่องลาออกเถอะ เพราะชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะอยู่กับงานที่ทำให้ชีวิตคุณแย่ลง
รู้ๆ กันอยู่ว่า ‘มนุษย์เพื่อนร่วมงาน’ อาจจะเป็นสิ่งที่เราไม่ได้เลือก โดยเฉพาะทีม ยิ่งแล้วใหญ่ ดังนั้นการอยุ่ร่วมและเผชิญหน้ากับคนที่พ่นพิษใส่เราตลอดเวลา มันต้อง ‘Strong’ ทั้งการกล้าเผชิญหน้ากับปัญหา เอาชนะด้วยการให้อภัย ไม่ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าในกรณีที่เตือนไปแล้ว แต่ได้รับท่าทีที่ไม่พอใจ สิ่งที่ดีที่สุดคือ Move on และปล่อยเขาไป ทางใครทางมัน ทำงานที่รับผิดชอบให้ดีก็พอ
อ้างอิง : https://www.workventure.com