จากรายงานของกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า
อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่เปิดเผยแนวโน้มและภาวะอุตสาหกรรมไฟฟ้า
อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคมในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน 2562 มีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกที่แยกเป็นผลิตภัณฑ์
-
เครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มูลค่าส่งออก 258,807 ล้านบาท
ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.74 %
- อิเล็กทรอนิกส์ส่งออกขยายตัวลดลง มูลค่าส่งออก 347,156 ล้านบาท ขยายตัวลดลง -11.29 %
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ส่งออกหลักที่ยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
อาทิ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ขยายตัว 20.24 % แผงสวิตช์
แผงควบคุมกระแสไฟฟ้าฯ ขยายตัว 9.11 % และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัว 11.45
%
ตลาดส่งออกหลักเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ
ได้แก่ ญี่ปุ่น ขยายตัวเพิ่มขึ้น 21.92 %, US สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น13.74%, เวียดนาม ขยายตัวลดลง -7.49 % และจีน
ขยายตัวลดลง -13.88 %
ตลาดส่งออกหลักอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ได้แก่ US สหรัฐฯ ขยายตัวลดลง -10.97 %, ฮ่องกง ขยายตัวลดลง -13.33 %, ญี่ปุ่น ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.54 % และจีน ขยายตัวลดลง -21.48 %
โดยนางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยถึงแม้การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะมีแนวโน้มลดลง สืบเนื่องจากภาวะตลาดโลกที่ชะลอตัว, ภาวะ Trade War และความไม่แน่นอนในการสั่งซื้อของตลาดโลก ฯลฯ แต่อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และต้องการการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการพัฒนา
พิมพ์เขียวสู่ “Smart
Industry”
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม
ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไปสู่ Smart Industry โดยมีวิสัยทัศน์คือ
“ส่งเสริมสนับสนุนขีดความสามารถของสมาชิกเข้าสู่เทคโนโลยีขั้นสูง”
โดยแบ่งยุทธศาสตร์เป็น 3 ข้อหลัก ดังนี้
1. ยุทธศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้า (Mass Customization for Customers Segmentation) โดยเน้นด้านการออกแบบรูปลักษณ์สินค้า
และปรับวิธีการใช้งานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค (Life Style) รวมถึงพัฒนาให้สินค้าประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
(Embedded System) เข้ามาใช้ด้วย เพื่อพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความฉลาด (Smart Home Appliance) และสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้
2. ยุทธศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ (Advance & Effective Electronics Manufacturer) โดยการพัฒนากระบวนการผลิตให้มีความทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีอัตโนมัติ
(Automation) มาใช้มากขึ้น ยกระดับผู้ผลิตจาก OEM ให้เป็น Electronics Manufacturing Service (EMS) โดยการเพิ่มศักยภาพด้านการออกแบบเชิงวิศวกรรม (Engineering Design) รวมถึงส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
เช่น อุปกรณ์เซ็นเซอร์ และเครื่องกลจุลภาค (Micro Electromechanical System : MEMS) ใช้ในอุปกรณ์สื่อสาร ระบบจัดการพลังงานฉลาด (Smart Power) อิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์
/ เครื่องมือแพทย์ / การเกษตร RFID ไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontrollers)
ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ฉลาดขึ้น
3. ยุทธศาสตร์ไฟฟ้ากำลัง ทิศทางการพัฒนาจะมีแนวโน้มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (Renewable Energy) มากขึ้น และการพัฒนาเป็นระบบจ่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) “Total Solution Service Provider” เพื่อยกระดับผู้ผลิตไทยให้เป็นผู้ให้บริการครบวงจรที่มีมาตรฐานการติดตั้ง / ให้บริการอย่างมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของประเทศใน ASEAN ที่กำลังลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จำนวนมาก
นายกฤษดา ทรัพย์ทวยชน รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว
ทางกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯ ได้จัดตั้งกลุ่มความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยียุคใหม่ขึ้น
โดยความร่วมมือจาก 6 หน่วยงาน คือ สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯ สมาคมไทยไอโอที สมาคมนวัตกรรม สมาคมสมองกลฝังตัว และสถาบันไฟฟ้าฯ
อย่างไรก็ตาม เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางและสร้าง Platform ให้เป็นไปตามองค์ประกอบข้างต้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจะเริ่มถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯ ต่อไป