‘เอ ปิโตรเลียม’ Transform ปั๊ม Local สู่ตัวแทนจำหน่ายน้ำมันแบรนด์ยืนหนึ่งเมืองไทย 9 สาขา

เปิดเส้นทางธุรกิจ ‘เอ ปิโตรเลียม จำกัด’ ทำอย่างไรในการ Transform กิจการปั๊ม Local จนสามารถประสบความสำเร็จกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมัน เปิดให้สถานีบริการน้ำมัน ปตท. แบรนด์อันดับหนึ่งของเมืองไทยถึง 9 สาขา ในพื้นที่จังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ และลำปาง ร่วมหาคำตอบไปกับบทสัมภาษณ์นี้

คุณเอกชัย วงศ์วรกุล หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ ปิโตรเลียม จำกัด เล่าถึงเส้นทางแห่งความสำเร็จว่า ตนเองเริ่มทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเมื่อ 29 ปีที่แล้ว เนื่องจากมองเห็นโอกาสว่าการใช้รถเป็นพาหนะในเมืองไทยได้รับความนิยม - เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถซัพพลายให้กับธุรกิจก่อสร้างของครอบครัวได้ เพราะเครื่องจักรก่อสร้างต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเช่นเดียวกัน จึงเริ่มต้นโดยการลงทุนเช่าพื้นที่สร้างปั๊มน้ำมันแบรนด์หนึ่ง ก่อนจะเติบโตและขยายสาขาเพิ่มในเวลาต่อมา พร้อมทั้งยังมีการ Transform ธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วบริษัทมองเห็น Pain Point ของการทำธุรกิจปั๊มแบบเดิมของผู้ประกอบการค้าน้ำมันขนาดเล็ก (ปั๊มหลอด) ตนเองจึงเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจด้วยการเป็น Partner กับปั๊มหลอด แล้วสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาให้เป็นปั๊มน้ำมันที่มีมาตรฐาน พัฒนามาใช้เป็นระบบหัวจ่าย มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการยกระดับการให้บริการกับลูกค้าหรือผู้ใช้รถ เช่น ปริมาณการจ่ายน้ำมันให้ลูกค้า, การควบคุมคุณภาพ และการสร้างมาตรฐานของปั๊ม เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทได้รับการยอมรับและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนมีสถานีบริการน้ำมันขนาดย่อมในชุมชนต่างๆ เป็น Partner กว่า 40 สาขา 

ในเรื่องนี้ คุณเอกชัย เผยว่า จากอดีตสู่ปัจจุบัน โลกเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคย่อมเปลี่ยนไป เกิดเป็นเทรนด์คนที่ใช้รถไม่ได้เข้าปั๊มเพื่อต้องการเติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว ต้องการใช้บริการอย่างอื่นด้วย สถานีบริการน้ำมันจึงต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องน้ำสะอาด, ไฟส่องสว่าง, ที่จอดรถ, มีร้านกาแฟน่านั่ง รวมถึงร้านสะดวกซื้อที่ทันสมัย เป็นต้น 

คุณเอกชัย เล่าต่อว่า ด้วยความที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. แบรนด์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ได้มีแนวคิดในการพัฒนาและยกระดับแบรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมกับมีการเปิดรับพาร์ทเนอร์เข้ามาให้บริการและจำหน่ายสินค้าต่างๆ จนกลายเป็นสถานีบริการน้ำมันที่มีความสะดวกครบครันทันสมัย และตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการยุคนั้น ตนเองเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน จึง Transform บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันแบรนด์ ปตท. เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

 

คุณเอกชัย เล่าถึงหลักการบริหารพนักงานว่า ตนเองนำแนวทางจากปั๊มน้ำมัน ปตท. มาส่งต่อยังพนักงาน เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านการทำงานให้มีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อม สามารถ Transform ให้สอดรับกับทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจขององค์กรอย่างได้มีประสิทธิภาพ

พร้อมกับเปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้อย่างเหมาะสม ด้วยการเปิดโอกาสให้พนักงานระดับปฏิบัติการ (เด็กปั๊ม) สามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นระดับกัปตันหรือผู้จัดการได้โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา เนื่องจากพนักงานเหล่านี้มีความเข้าใจในเนื้อหาของงานอย่างถ่องแท้ ส่งผลให้พนักงานทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานภายใต้องค์กร และมีใจรักที่จะส่งมอบบริการที่ดีให้กับลูกค้า

 

ส่วนแผนในการขยายธุรกิจในอนาคต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ ปิโตรเลียม จำกัด มองว่าการลงทุนทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมันต้องใช้เงินลงทุนสูง มีความเสี่ยง และอาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน ดังนั้น จึงอาจต้องมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาพื้นที่ภายในสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่แล้วให้เกิดความคุ้มค่า เช่น การทำธุรกิจอื่นเสริม หรือดีลกับร้านค้าแบรนด์ Local ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมาเป็นพันธมิตรในรูปแบบการให้เช่า เพื่อให้มีผลตอบแทนเข้าองค์กรเพิ่มมากขึ้น 

ซึ่งการที่ปั๊มน้ำมันจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค มีความเชื่อมั่นในแบรนด์หลักทำตามนโยบายการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด พร้อมทั้งมีการวางแผนรองรับการ Transform ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ปั๊มน้ำมันเตรียมเข้าสู่โหมดธุรกิจสถานีชาร์จรถ EV ซึ่งเป็นสิ่งที่ SME ต้องให้ความสำคัญปรับตัวให้ทันตามพฤติกรรมผู้บริโภค อันจะส่งผลให้ธุรกิจอยู่รอดได้แม้จะเจอเทคโนโลยีดิสรัปชันกิจการก็ตาม