นักเดินทางส่วนมากมักแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ในการเดินทาง ยิ่งถ้าคุณเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้ไปเยือนดินแดนเหล่านี้ก่อนใคร ถือเป็นความสุขใจที่ได้ check in ก่อนใคร ขอแนะนำ 3 ประเทศใหม่ ๆ ซิงค์ ๆ ที่คนไทยน้อยคนจะได้ไปเยือน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
มีครบจบที่..โครเอเชีย
เอ่ยถึง “โครเอเชีย” หากไม่ดูฟุตบอลจักประเทศนี้น้อยมาก
แต่เป็นหนึ่งในประเทศท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดของยุโรป ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนมาก
จนรายได้หลักของประเทศนี้ได้มาจากการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับหนึ่ง
โครเอเชียเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่เพิ่งได้รับเอกราชไม่นานและรวมอยู่ในกลุ่มอียู ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนพระจันทร์เสี้ยว”
เพราะรูปร่างประเทศคล้ายพระจันทร์เสี้ยวหรือรูปเกือกม้า มีชายฝั่งติดทะเลอาเดรียติกยาวตั้งแต่ด้านบนสุดไปจรดล่างสุดซึ่งสวยงามมาก
จนได้รับยกย่องให้เป็นไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก
แม้จะเป็นประเทศที่เพิ่งเกิดใหม่ แต่แท้จริงแล้วโครเอเชียมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเพราะเคยถูกปกครองโดยจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
จักรวรรดิออสเตรีย จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จึงถูกหลอมรวมกลายเป็นวัฒนธรรมที่หลากหลายซึ่งสะท้อนทางด้านสถาปัตยกรรมการก่อสร้างตลอดจนอาหาร
เป็นประเทศที่มีมรดกโลกอยู่ถึง 10 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 8
แห่งและแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติอีก 1 แห่ง ถือเป็นเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือนให้หลงรักทุกคน
มาโครเอเชียต้องไม่พลาดสถานที่สวยงาม อาทิ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) หนึ่งในเมืองมรดกโลก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ติดชายทะเลที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสไตล์โกธิค เรเนซองส์ และบาโรก เป็นเมืองที่สวยขนาดมีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหลายเรื่องมาใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำ Plitvice Lakes National Park ป่าธรรมชาติบนพื้นที่ 296 ตารางเมตรที่มีทั้งน้ำตกขนาดใหญ่และทะเลสาบที่อลังการซึ่งน้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกตท่ามกลางป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ จนได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2522 , พระราชวังไดโอคลีเชียน เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียน ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 อายุกว่าพันปี ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามในสไตล์โรมัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2522
หลงรัก”จอร์เจีย”
“จอร์เจีย” ประเทศที่สวยเหมือนสวิส
แต่ค่าครองชีพถูกเท่ากับเมืองไทย นี่คือเหตุผลที่ตอนนี้คนไทยเริ่มหันไปเที่ยวจอร์เจียกันมากขึ้น
แถมเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าและความงามของประเทศนี้แค่ดูจากภาพถ่ายแล้วก็หลงรักแล้ว
จอร์เจีย เป็นประเทศสองทวีปตั้งอยู่สุดขอบของทวีปเอเชียและอยู่ใกล้กับทวีปยุโรปมาก
ถ้ายึดลักษณะภูมิศาสตร์จะอยู่ในเอเชีย
แต่การปกครอง สถาปัตยกรรม ผู้คนออกไปทางยุโรปเต็มๆ เสน่ห์ของจอร์เจียที่โดนใจนักท่องเที่ยวทุกสาย
ไม่ว่าสายศิลปวัฒนธรรมเพราะความเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 2,500
ปีที่ยังคงหลงเหลือสถาปัตยกรรมเตือนความทรงจำเก่า ๆ ให้ได้เรียนรู้กัน
หรือสายฮิปสเตอร์ ที่มีร้านกาแฟและแหล่งฮิป ๆ ให้ check in กันแบบชิว ๆ สายกินดื่มที่มาจอร์เจียแล้วพลาดไม่ได้คืออาหารและไวน์ราคาถูกมาก
ส่วนสายธรรมชาติจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศภูเขา
ทุ่งหญ้าและฟ้าใสที่ไม่แพง จอร์เจียมียอดเขาสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยุโรปมีแต่ทั้งภูเขาหิมะ
ลำธารสีฟ้า ทุ่งหญ้ากว้าง มีให้เห็นทั่วไปแทบทุกเมือง มองไปทางไหนก็สวยไปหมด
มาจอร์เจียต้องเที่ยวที่ไหนดี
แนะนำให้ไปที่ ไซห์นากี เมืองแห่งหุบเขาที่สามารถชื่นชมกับภูมิทัศน์ตระการตาของเทือกเขาคอเคซัสได้อย่างใกล้ชิด
รวมถึงสถาปัตยกรรมและสีสันของบ้านเรือนตามเนินเขา กลายเป็นบรรยากาศโรแมติกที่นักท่องเที่ยวประเภทคู่รักมักจะมาเที่ยวกัน
“โมร็อคโค”ดินแดนอันน่าค้นหา
เสน่ห์ของประเทศโมร็อคโคเหมือนไปที่เดียวแต่ได้เจอความหลากหลายที่มาเติมเต็มประสบการณ์ความประทับใจจากการเดินทางไปเยือนดินแดนที่น่าค้นหามีความสวยงามที่แปลกแตกต่างทั้งธรรมชาติอันหลากหลาย
มีบรรยากาศท้องทะเล และมหาสมุทรอันงดงาม ยังมีบรรยากาศ ของท้องทุ่ง
ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และ พืชพรรณที่เขียวขจี
โมร็อคโคตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา
แต่บ้านเมืองเป็นแบบยุโรปที่มีกลิ่นอายของแขกมัวร์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของประเทศนี้ สถานที่ท่องเที่ยวของโมร็อคโคมีมากมาย
อาทิ คาซาบลังกา เมืองที่มีภาพยนตร์มาใช้เป็นฉากถ่ายทำหนังแนวโรแมนติกมากที่สุด
เมืองเชฟชาอูน หรือนครสีฟ้าเพราะบ้านทุกหลังทาสีฟ้าอ่อน และความหลากหลายของประตูหน้าบ้าน
ที่ถูกทาสีตกแต่งอย่างสวยงาม
เล่ากันมาว่า ผู้คนในเมืองเริ่มทาสีอาคารบ้านเรือนให้เป็นสีฟ้า มาตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1930 เพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ของเมือง อซิลาห์ เมืองแห่งรีสอร์ทริมทะเลที่มีสถาปัตยกรรมสีสันสดใส
ป้อมปราการเก่า
รวมไปถึงจิตรกรรมฝาผนังที่มีให้ชมทุกพื้นที่ เฟสเมืองมรดกโลกที่สวยงามราวกับอยู่ในนิยาย
ด้วยภูมิประเทศและแนวเทือกเขาแอตลาสเป็นทิวทัศน์
เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ยุคเก่าของโมรอคโค รายล้อมด้วยสีฟ้าน้ำเงินสบายตา
อยู่กลางภูเขารีฟ (Rif Mountain) ไม่ไกลจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เดิมทีที่แห่งนี้สร้างมาเพื่อเป็นเมืองป้อมปราการชาวมัวร์และยิวที่ถูกขับออกจากสเปนด้วยเหตุผลทางศาสนา
วันหยุดยาวที่จะถึงนี้
หากมีเวลาลองไปสักครั้งมั้ย ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้ไปด้วยกัน