ใครบอกว่าญี่ปุ่นมีแค่ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า หรือ ฮอกไกโดเท่านั้น บนพื้น 377,973 ตร.กม. หรือ 6,852 เกาะ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังรอนักท่องเที่ยวไปค้นหาเสน่ห์อันน่าหลงใหลอีกมากมาย ไม่เชื่อลองไปเที่ยว unseen 5 เมืองรองที่คนไทยไม่ค่อยจะไปกัน แต่ขอเตือนว่าใครที่ไปแล้วต้องหลง ไม่ใช่หลงทางแต่หลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ฟุกุโอกะ (Fukuoka)
ฟุกุโอกะถือเป็นเมืองที่ใหญ่มากที่สุดของเกาะคิวชู นอกจากความใหญ่ของพื้นที่แล้ว
ฟุกุโอกะยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่นเลยด้วย เพราะความที่เป็นเมืองใหญ่จึงสามารถเที่ยวครบจบที่เมืองนี้เลย
มาเที่ยวฟุกุโอกะ ต้องไม่พลาด วัดนันโซอิน
เป็นวัดที่สำคัญมากของเกาะคิวชูแต่นักท่องเที่ยวรู้จักกันน้อยมาก บรรยากาศรอบๆ
วัดปกคลุมด้วยธรรมชาติอันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไสยาสน์หล่อด้วยสำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เชื่อกันว่าใครไปไหว้พระที่วัดนี้แล้วจะถูกหวยได้โชคลาภ
ใครอยากเสี่ยงโชคต้องตามไป
ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวสายบุญขอแนะนำอีกแห่งคือศาลเจ้าคุชิดะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ประจำเมืองฟุกุโอกะ มีอายะกว่า 1,200 ปี ส่วนสายกินช้อปต้องแวะ Canal City Hakata , Hakata Riverian Mall , Fukaoka Tower สวนสาธารณะเกาะโนโคโนะชิมะ ซึ่งจะมีดอกไม้ผลิบานทั้ง 4 ฤดู รวมทั้งถนนราเม็งที่มีราเม็งร้อนๆ หลากหลายสูตรเตรียมให้นักกินได้มาหาประสบการณ์กัน
เบปบุ (Beppu)
เบปปุ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นจากตาน้ำใต้ดินซึ่งมีอยู่ทั้งเมือง
แค่ขับรถเข้าเมืองนี้จะเห็นไอน้ำพวยพุ่งจากท่อน้ำ และบ้านเรือน
มหัศจรรย์จริงๆ “เบปปุ ฮัตโตะ” หรือ “บ่อน้ำพุร้อน” ที่สร้างเป็นออนเซ็นให้ลูกค้าแช่ตัวที่มีชื่อเสียงมี 8 แห่ง
ซึ่งแต่ละที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไปทั้งบ่ออบทรายร้อน บ่อแช่โคลน
และบ่ออบไอน้ำ รวมถึงออนเซ็นสาธารณะที่เปิดให้คนทั่วไปได้นอนแช่ตัวฟรี
ส่วนสถานที่อื่นๆ ก็มี Umitamago Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์ทะเล ดูปลา ดูสัตว์น้ำ Takasakiyama Monkey Park สวนลิง และขึ้นกระเช้าไปภูเขาซึรุมิ (Mount Tsurumi)
เกโระ (Gero)
เมืองเกโระ เป็นเมืองเล็กๆ ที่เก่าแก่ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ
ต้องเรียกว่าเกโระเป็นเมืองผ่านทาง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนมากจะเลยไปทาคายาม่า
ทำให้เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวมาน้อย ถ้าใครชอบเดินเล่นชิวๆ เมืองนี้เหมาะมาก
สำหรับนักท่องเที่ยวสายสุขภาพต้องไม่พลาดแหล่งน้ำพุร้อนของเมืองเกโระ
เพราะมีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำร้อน มีแม่น้ำฮิดะไหลผ่านตัวเมือง ในตัวเมืองมีบ่อแช่เท้าให้บริการอีกหลายจุด
แต่ละจุดมีคนมานั่งพักแช่เท้าตลอด
รวมทั้งร้านอาหารหลายแห่งจะเตรียมบ่อน้ำร้อนให้ลูกค้านั่งแช่เท้ารอคิวเรียกไปทานอาหารอีกด้วย
"หมู่บ้านกัชโช" (Gassho
Village) เป็นหมู่บ้านที่ย้ายเอาบ้านทรงกัชโชสึคุริจากสถานที่ชิราคาวาโกะมาสร้างขึ้นใหม่จำนวน
10 หลัง และปรับปรุงทิวทัศน์ให้เหมือนกับทิวทัศน์ในสมัยก่อน
ภายในนั้นมีพิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมือง ร้านอาหาร
สิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับการลองสัมผัสประสบการณ์การวาดภาพบนกระดาษญี่ปุ่น
บนเครื่องปั้นดินเผาและการทำเครื่องปั้นดินเผา
ใครอยากดูซากุระบานแบบไม่ต้องเบียดกับฝูงชน แนะนำให้มาแวะมาเมืองเกโระช่วงเดือนมีนา-เมษา จะได้ถ่ายรูปคู่กับดอกซากุระแบบจุใจ
เซนได (Sendai)
เมืองเซนได ตั้งอยู่จังหวัดมิยางิ ของภูมิภาคโทโฮกุ ที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู
ได้ฉายาว่า "เมืองแห่งต้นไม้” เพราะมีต้นเซลโคว่าราว
60 ต้น บนถนนโจเซ็นจิ และถนนอาโอบะ มีความโดดเด่นทั้งด้านความสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
แนะนำให้เริ่มเที่ยวที่ปราสาทเซนได สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1601
สร้างโดยไดเมียวดาเตะ มาซามูเนะ ผู้ก่อตั้งและวางรากฐานของเมืองเซนได
แต่ตอนนี้เหลือแต่กำแพงและอาคารรอบๆ วัดซุยกันจิ เป็นวัดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ
เป็นวัดนิกายเซ็นอันดับหนึ่งของแถบโอชู ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 828 โดยจิคาคุไดชิเอ็นนิน
พระสงฆ์ที่เป็นผู้สร้างวัดฮิราอิซึมิและวัดยามะเดระมาก่อน
โดยตัวอาคารที่เห็นในปัจจุบันนั้นเป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ในชื่อวัดโฮไดจิ
เป็นวัดประจำตระกูลดาเตะในสมัยดาเตะ
Sendai Daikannon เป็นที่ประดิษฐาน
เทวรูปใหญ่เจ้าแม่กวนอิม สีขาวขนาดสูงถึง 100 เมตร
สามารถมองเห็นตั้งแต่ตัวเมืองเซ็นได ภายในองเจ้าแม่กวนอิมคิพิพิธภัณฑ์สูง
12 ชั้นเป็นที่จัดแสดง เทวรูปต่างๆ มีความงดงาม
อาหารขึ้นชื่อของเซนไดคือ “ลิ้นวัวย่าง” เพราะเป็นเมนูออริจินอลหรือต้นกำเนิดเกิดที่เมืองนี้ ไปเดินตามร้านอาหารจะได้กลิ่นลิ้นวัวย่างหอมกรุ่นที่ย่างด้วยเตาถ่านอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง อีกที่หนึ่งที่สายกินต้องแวะไปคือตรอกบุงกะ โยโคโช เป็นแหล่งร้านอาหารแนวอิซากายะหรือร้านกินดื่มมีกลิ่นอายย้อนยุคมีร้านให้เลือกชิมมากกว่า 50 ร้าน เรียงรายเต็มสองข้างทางเดิน
มิยาซากิ (Miyazaki)
มิยาซากิ เป็นเมืองหลักของจังหวัดมิยาซากิ บนเกาะคิวชู แม้จะเป็นเมืองขนาดเล็ก
แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและสถานที่ตามธรรมชาติมากมาย
ไฮไลต์อันดับแรกคือ ลำธารช่องเขาทากาชิโฮ เป็นลำธารที่เกิดจากหินบะซอลต์ภูเขาไฟ ที่ถูกแม่น้ำโกซาเกะกัดกร่อนจนเกิดเป็นช่องเขาและน้ำตกตามธรรมชาติอันงดงาม
กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันเปี่ยมไปด้วยพลังความขลังของตำนานเก่าแก่
และความงามอย่างน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ
น้ำตก Sekino-o ตั้งอยู่ในสวน Kirishima Geopark
มีน้ำตก 3 แห่ง แบ่งออกเป็น น้ำตกใหญ่
น้ำตกชาย และน้ำตกหญิง น้ำตกใหญ่นั้นมีขนาดใหญ่ที่สุด กว้างถึง 40 เมตร และสูงถึง 18 เมตร ระหว่างน้ำตกมีสะพานแขวน
ให้ทุกท่านสามารถชมทัศนียภาพสุดประทับใจจากบนสะพานได้ เชื่อว่าใครได้มาเยือนจะต้องตะลึงกับความงดงามของน้ำตกแห่งนี้
Obi เป็นเมืองรอบปราสาทที่รุ่งเรืองมายาวนานกว่า 280
ปี ตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันก็ยังคงลักษณะดั้งเดิมทั้งตัวอาคาร
และกำแพงหินโดยรอบ และยังสามารถมองเห็นปราสาท Obi ได้อีกด้วย
ในตัวเมืองมีหอสมุดสำคัญที่สามารถเข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์เมืองนี้ได้
ศาลเจ้ามิยาซากิ สร้างขึ้นใหม่ในปี 1907 เพื่อเป็นเกียรติแก่ จิมมู จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น ภูมิประเทศโดยรอบสูงชัน ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าศาลเจ้ามิยาซากิและล้อมรอบด้วยต้นโอชิราฟู ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุกว่า 600 ปี
ช่วงบาทแข็งแบบนี้ เที่ยวเมืองนอกนี่คุ้ม !!! ไปกันเถอะ