Valentine's Day เป็นวันที่หนุ่มสาวผู้มีความรักเต็มหัวใจเฝ้ารอคอย
นับเป็นวันแห่งความรักสากล คนทั่วโลกให้การตอบรับกับเทศกาลนี้ ตลอดจนเป็นช่วงเทศกาลที่ร้านรวงออกมาประดับตกแต่งร้านค้าด้วยธีมหวานฉ่ำ
ให้คู่รักได้ฟินไปกับกลิ่นอายความหวานกรุ่นท่ามกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
สำหรับองค์ประกอบสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ การแสดงออกบอกรัก คนรักของตัวเองผ่านการออกเดทหวานๆ ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกและการมอบของขวัญเป็นสื่อรักแทนใจ แสดงถึงความนัยที่มีอยู่ในหัวใจผ่านช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปดูตัวเลขอันน่าตื่นตาตื่นใจกันว่า คนไทยตื่นตัวกับช่วงเทศกาลนี้กันแค่ไหน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากรายงานของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยพบว่า ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ทำเงินสะพัดในระบบได้สูงถึงกว่า
3,000 ล้านบาท!!
ใช่แล้วนี่คือความจริงและข้อมูลไม่ได้ผิดเพี้ยน
หรือยกเมฆมา เพราะในช่วงปี พ.ศ.2562 พบว่าคนไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ 2,318.96 บาท คิดเป็นมูลค่าทางการตลาดที่ผู้คนออกมาใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้ เท่ากับ
3,701.22 ล้านบาท
ตัวเลขแตะหลักกว่าสามพันล้านบาทแบบนี้มาตั้งแต่ปี
พ.ศ.2560 แล้ว ซึ่งจากรายงานตัวเลขที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำการสำรวจวิจัยตลาดมา
ทำให้รู้ว่าคนเราให้ค่าความสำคัญกับเรื่องความรักมากพอกับการทำมาหาเงิน
ดังนั้นนี่จึงเป็นจังหวะที่ดีที่ผู้ประกอบการร้านค้าควรรีบตักตวงใช้สอยให้เกิดประโยชน์
เพราะเป็นช่วงที่ Demand ความต้องการซื้อของผู้คนมีสูงมาก
แม้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรคนก็ยังคงมีความต้องการความหวานเพื่อเยียวยาหัวใจ
และอยากให้ตัวเองได้รับการยอมรับจากคนที่ตนรัก จนนำมาสู่การใช้ของขวัญหรือช่วงเวลาของเทศกาลสำคัญในการเป็นสื่อแทนความรู้สึกในใจ
โดยสินค้าและบริการที่ขายดีติดตลาดในช่วงนี้เทศกาลวาเลนไทน์ ได้แก่
1. ดอกกุหลาบและดอกไม้อื่นๆ
มาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ฮอตฮิตติดตลาดทุกปี
ชนิดที่ผู้ขายต้องเตรียมจัดช่อตกแต่งข้ามคืนแบบอดหลับอดนอน เพื่อให้มีสินค้าประเภทช่อดอกไม้ทั้งสด
แห้ง ดอกกุหลาบ และดอกไม้อื่นที่มีความหมายสื่อรักแทนใจในทางที่ดี วางจำหน่ายให้ทันวันที่
14 กุมภาพันธ์
เพราะเป็นช่วงที่ราคากุหลาบพุ่งขึ้นจากปกติถึง 30-40% เรียกว่าปรับราคากันมาตั้งแต่เด็ดออกจากแปลงปลูกไปจนถึงมือพ่อค้ารายย่อยเลยทีเดียว
เหตุผลที่นิยมใช้ดอกกุหลาบ
นั้นมาจากความเป็น “ราชินีแห่งมวลบุปผา” เป็นตัวแทนความรักจากใจแบบหนุ่มสาว
ที่เป็นได้ทั้งความรักในช่วงต้นๆ ของการจีบหรือการคบหา หรือคบหามานาน
จนไปถึงใช้ชีวิตคู่แต่งงานแล้ว
กุหลาบจึงกลายเป็นที่นิยมในการใช้สื่อรักมากกว่าการให้ของขวัญในแบบอื่น และที่มีการนิยามให้ความหมายไว้หลากหลาย
เช่น
- กุหลาบสีแดง แทนการสื่อให้รู้ว่า
"ฉันรักเธอเข้าแล้ว"
- กุหลาบสีขาว แทนคำว่า “ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์
ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน"
- กุหลาบสีส้ม
ใช้บอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา
- กุหลาบสีแดงเข้ม แทนคำว่า
"เธอช่างสวยเหลือเกิน"
- กุหลาบสีชมพู แทนความงดงามและความอ่อนโยน
- หากใช้กุหลาบแดงและขาวรวมกัน จะสื่อความหมายให้รู้ว่า "สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน"
2. ช็อกโกแลต เป็นสื่อแทนรักแทนใจที่ขายดี
มีราคาไม่แรงเท่ากุหลาบ คนไทยจึงนิยมใช้ช็อกโกแลตบอกรักแทนดอกไม้
จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยกว่าแปดล้านคน ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปี พ.ศ.2558 พบว่า
ช็อกโกแลตคือของขวัญยอดนิยมสำหรับคู่รักชาวไทย (ร้อยละ 57)
จากการที่มียอดขายมากกว่าสินค้าชนิดอื่นเป็นเท่าตัว เช่น ดอกไม้ (ร้อยละ 27)
และการ์ดอวยพร (ร้อยละ 12)
ผลสำรวจยังพบว่า
ช็อกโกแลตเป็นตัวเลือกของขวัญยอดฮิตที่ผู้บริโภคในภาคเหนือ กลาง และอีสาน เลือกที่จะมอบให้คนรักเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลแบบนี้
ผู้ผลิตทั้งรายย่อยรายใหญ่จะวางแผนในการปรับเปลี่ยนแพ็คเกจให้เหมาะสมกับการส่งต่อแทนรักจากใจในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์
อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าเทียบราคาของช็อกโกแลตกับดอกกุหลาบแล้ว
ช็อกโกแลตนั้นมีราคาถูกกว่าดอกกุหลาบมาก เนื่องจากเป็นสิ่งมีค่าหายากในสมัยนักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิต
ผู้คนจึงใช้สื่อความหมายแทนความรัก ความห่วงใยให้แก่คนที่ตนรักในทุกความสัมพันธ์
ไม่เฉพาะว่าเป็นแค่ความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ช็อคโกแลตยังเคยเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพ
มิตรภาพ และสันติภาพ ในช่วงที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วย
3. ตุ๊กตา ถูกนำมาใช้แทนของขวัญในหลายเทศกาล ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเด็กหนุ่มสาวขอบคุณ
ถูกนำมาใช้ในการบอกรักแทนดอกไม้หรือช็อกโกแลต เพราะเก็บรักษาได้นาน
มีความคงทนและราคาไม่สูงเกินไป ตลาดการซื้อตุ๊กตาหมีให้คนรักในช่วงวันวาเลน์ไทน์นั้นจึงไม่จัดว่าหวือหวาหรือกว้างขวางเหมือนกุหลาบและช็อกโกแลต
แต่จัดเป็นออพชั่นของขวัญที่ขายดีในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ด้วยเช่นกัน ด้วยมีความหมายไปในทางความกล้าหาญและอดทน
แฝงนัยทางความรักไว้ในการซาบซึ้งใจ จึงกลายเป็นความกล้าหาญที่จะบอกความนัยใจกับคนที่ตนรู้สึกดี
นิยมให้แทนความหมายของการสารภาพรักหรือแอบรัก นอกจากนี้มีตุ๊กตาแบบอื่นๆ ที่มีความมาหมายดีมีการนำมาส่งมอบให้คู่รักคนรักด้วย
เช่น
- ตุ๊กตากระต่ายตัวใหญ่ สื่อความหมายแทนการขอให้ความรักนั้นเบ่งบาน
- ตุ๊กตาสุนัข
แทนความรักที่ซื่อสัตย์ไม่เปลี่ยนไป
- ตุ๊กตาแมว แทนการตกหลุมรักหรือหลงรัก
หลงเสน่ย์คุณจนหมดใจ
- ตุ๊กตาช้าง แทนความโชคดีและมีความสุข
- ตุ๊กตาหมีแพนด้า
แทนความสัมพันธ์ที่อบอุ่น และมั่นคงไม่รีบร้อน
4. เครื่องประดับ ทองคำ
และอัญมณี เป็นของขวัญล้ำค่าแทนคำมั่นสัญญาและความจริงจังจริงใจ ของคู่รักที่ดูหนักแน่นมั่นคงที่สุดในบรรดาของขวัญที่ได้รับความนิยมส่งมอบให้กันช่วงวันวาเลนไทน์ จากผลสำรวจ “ดัชนีความรักของมาสเตอร์การ์ด”
ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ช่วงระหว่างปี พ.ศ.2558-2560 พบว่ามีมูลค่าการใช้จ่ายในเรื่องเครื่องประดับและอัญมณีโดยรวมในปี 2559
เพิ่มขึ้นราว 21% เมื่อเทียบกับปี 2558 (Mastercard Love
Index,2558-2560)
โดยการมอบของขวัญเครื่องประดับต่างๆ
นั้นมีความหมายแฝงไว้อย่างลึกซึ้งไม่แพ้สิ่งของอย่างอื่น เช่น
- สร้อย กำไล มีความหมายพิเศษ แทนใจ
ให้ติดตัวคู่รักตลอดเวลา
- เพชร แทนความหมายแห่งรักนิรันคร์
สื่อความหมายถึงความสัมพันธ์แบบยั่งยืน และรักแท้ พลอย พลอยแท้
- พลอย สื่อถึงการความนำศิริมงคลมาให้ถึงแก่ผู้สวมใส่
สร้างความโชคดีคนที่เรารัก
- นาฬิกา ใช้แทนความสัมพันธ์แบบยั่งยืน
เป็นการเตือนย้ำคามผูกพันธ์ทางใจของคู่รัก
5. สินค้าเป็นคู่ ของอะไรที่มีความหมายเป็นคู่หรือแสดงตัวตนว่าคนๆ นี้คบกับคนๆ นี้อยู่
เช่น แหวนคู่ เสื้อคู่ แก้วคู่ นาฬิกาคู่ ฯลฯ ล้วนเป็นเทรนด์ตลาดทีได้รับความสนใจจากคนมีคู่
แม้จะไม่ได้มีความหวานแหว๋วเหมือนการส่งมอบดอกกุหลายแทนใจ
แต่การใช้สิ่งของหรือสวมเสื้อผ้าที่บ่งบอกว่าเป็นทีมเดียวกัน ก็เป็นความอบอุ่นและความสุขทางใจที่คู่กัน
เลือกใช้การสื่อสารถึงเรื่องราวในหัวใจของกันและกันได้ดี
เทรนด์สินค้าเหล่านี้จึงควรมีในวันวาเลนไทน์
และเป็นอะไรที่สามารถทำการตลาดไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาลสำคัญ เช่นวันแห่งความรักเพียงเท่านั้น
6. ทริปหรือดินเนอร์สุดประทับใจ เป็นอีกสิ่งที่สร้างความสุขทางใจของคู่รักได้ยืนนานกว่าการมอบสิ่งของให้แก่กัน
ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก ซึ่งดัชนีความรักของมาสเตอร์การ์ด
เผยว่าสุดยอดของวิธีโปรยเสน่ห์ คือ ความรื่นรมย์ผ่านมื้ออาหาร และในปีที่ 2560
ผู้คนนิยมพาคนรักของตัวเองออกมาดินเนอร์ในช่วงวาเลนไทน์ คิดเป็นสัดส่วนสูงสุดถึง
40% เมื่อดูจากยอดการใช้จ่าย หรือ 75% เมื่อดูจากจำนวนธุรกรรม
นอกจากนี้ การพาคนรักท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์น่าประทับใจ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลาอันสุดแสนจะโรแมนติกของปี
ดังนั้น การแสดงออกถึงความรักเป็นในช่วงเทศกาลสำคัญไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลื่อนลอย แต่เป็นการเห็นคุณค่าให้ความสำคัญกับบุคคลอันเป็นที่รัก การส่งมอบของขวัญหรือมอบประสบการณ์อันสุดแสนพิเศษให้แก่กัน จึงเป็นเสมือนน้ำเลี้ยงให้ความสัมพันธ์มีความหวานชื่นรื่นรมย์ไปได้อีกนาน และเป็นสิ่งที่คู่รักจะให้ความสำคัญกับเรื่องราวของวันวาเลนไทน์ไปอีกนานชั่วกัลป์