พฤติกรรมผู้บริโภคในเวียดนาม ขนมขบเคี้ยวกำลังเข้ามาแทนที่มื้ออาหารดั้งเดิม เนื่องจากวิถีการดำเนินชีวิตสมัยใหม่ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ขนมขบเคี้ยวสามารถสร้างกำไรทั่วโลกรวมทั้งในเวียดนาม จากการสำรวจของบริษัท The Harris Poll and Mondelez International ใน 12 ประเทศ พบว่าผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนถึง 6 ใน 10 นิยมทานมื้อย่อยๆ ระหว่างวันหลายๆ มื้อ แทนที่จะอาหารเฉพาะมื้อหลัก 2-3 มื้อ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
อีกทั้งรายงานของบริษัท
Nielsen ในปี 2017 ได้ระบุว่า
สินค้ากลุ่ม FMCG (Fast-Moving Consumer Goods) ที่มีการเติบโตสูง คือ ขนมขบเคี้ยว และพบการเจริญเติบโตของสินค้าประเภทปกติ
เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถั่วเหลือง ซอสหอยนางรม น้ำปลาและผงชูรส ไม่ได้เจริญเติบโตรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเภทของอาหารที่ให้พลังงาน
เช่น บิสกิต พายเค้ก และขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนมขบเคี้ยวที่เติบโตขึ้น 21
เปอร์เซ็นต์ บ่งชี้ว่าผู้บริโภคในหลายๆ
ประเทศมีความเต็มใจและพร้อมที่จะใช้จ่ายเกินความจำเป็นในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้จากรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
นครโฮจิมินห์ ระบุว่าขนมขบเคี้ยวมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากนักเรียนและพนักงานออฟฟิศนิยมซื้อในช่วงพัก
และตลาดกำลังมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ที่ถูกเปิดตัวด้วยบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้านผลกระทบและโอกาสของผู้ประกอบการไทย
ปัจจุบันตลาดของขนมขบเคี้ยวของเวียดนามมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว เป็นโอกาสของสินค้าและบริการจากไทยในการขยายตลาดเข้าสู่เวียดนาม
ขณะเดียวกันเวียดนามมีผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากต่างชาติ เช่น Nestle หรือ Lay’s เป็นต้น
สำหรับขนมขบเคี้ยวแบรนด์ไทยที่มีวางจำหน่าย เช่น สาหร่ายเถ้าแก่น้อย ขาไก่โลตัส เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสสำหรับขนมขบเคี้ยวแบรนด์ไทยอื่นๆ ที่จะเข้าสู่ตลาด เนื่องจากแนวโน้มประชากรเวียดนามวัยรุ่นถึงวัยทำงานมีจำนวนมาก ด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้นและพฤติกรรมบริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการขนมขบเคี้ยวไทย และเนื่องจากปัจจุบันการบริโภคขนมขบเคี้ยวเปลี่ยนไปเป็นการบริโภคทดแทนมื้ออาหาร ทำให้ต้องเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ทางอาหารและดีต่อสุขภาพมากขึ้น รวมทั้งเน้นขนมขบเคี้ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่ม เช่น ขนมขบเคี้ยวแคลอรี่ต่ำ ทดแทนมื้ออาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน
เป็นที่ทราบดีว่าเศรษฐกิจของเวียดนามโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา และพฤติกรรมผู้บริโภคก็มีความเปลี่ยนแปลงจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้สินค้าที่แต่เดิมคนเวียดนามมองว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็นกลับมีแนวโน้มขายดีในปัจจุบัน และขนมขบเคี้ยวเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งที่บ่งชี้ว่า ตลาดเวียดนามมีความหลากหลายมากขึ้นและเปิดกว้างต่อสินค้าใหม่ๆ มากยิ่งขึ้นด้วย นี่อาจเป็นข้อมูลที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปขยายตลาดได้