การทำ CSR เชิง Perception และ Performance แตกต่างกันอย่างไร

SME in Focus
09/12/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 1814 คน
การทำ CSR เชิง Perception และ Performance แตกต่างกันอย่างไร
banner

เรื่อง CSR เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่กิจการจะต้องแน่ใจว่าได้ทำให้เกิดขึ้น หรือดำเนินอยู่ในกระบวนงานหรือในการดำเนินธุรกิจขององค์กรจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้สังคมเห็นว่า องค์กรมีภาพของความรับผิดชอบต่อสังคม โดยผ่านรูปแบบของการทำกิจกรรมเพื่อสังคมเท่านั้น 

ตัวอย่างของโรงงานที่ติดตั้งเครื่องบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่ชุมชน แสดงถึงการสร้าง CSR ในส่วนที่เห็นได้ (เชิง Perception) แต่หากโรงงานไม่ได้เปิดเครื่องบำบัด เนื่องจากต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย หรือด้วยเหตุอื่นใดก็ตาม แล้วปล่อยน้ำเสียสู่ชุมชนโดยไม่ได้ผ่านการบำบัด แสดงให้เห็นว่าโรงงานไม่มี CSR ในส่วนที่เป็นจริงๆ (เชิง Performance) และยังอาจละเมิดกฎหมายด้วย

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ความพยายามสร้าง CSR ในเชิง Perception อย่างเดียว ไม่อาจนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ เพราะองค์กรขาดความสำนึกรับผิดชอบที่จะปฏิบัติงานหรือประกอบการอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมจริงๆ แต่ทำเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ หรือลวงให้สังคมเข้าใจว่าตนเองมีความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว 

การทำ CSR ในเชิง Performance ถือเป็นปัจจัยหลัก หรือ "เหตุ" ที่เกื้อหนุนให้องค์กรได้มาซึ่งความยั่งยืน จากการประกอบการที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการดำเนินการจริง หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า กิจการไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งความยั่งยืน โดยปราศจากการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมที่แท้จริง 

ฉะนั้นการที่องค์กรหนึ่งๆ จะกล่าวอ้างว่าได้ใช้กรอบ SD (Sustainable Development) ในการดำเนินงาน ก็หมายความว่า องค์กรนั้นต้องมีการดำเนินเรื่อง CSR ในเชิง Performance ที่อยู่ในกระบวนงานทั่วทั้งองค์กร ครอบคลุมสาขาและแหล่งดำเนินงานทุกแห่งที่อยู่ในอำนาจกำกับดูแลของบริษัท 

การสร้าง CSR ในเชิง Perception เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้บริษัทสามารถกล่าวอ้างถึงบทบาทการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SD ได้เลย หากปราศจากการทำ CSR ในเชิง Performance อย่างจริงจัง 

และไม่ใช่ว่าองค์กรจะเลียนแบบการทำ CSR ขององค์กรอื่นที่ทำได้สำเร็จ แล้วจะสำเร็จเช่นเดียวกัน กิจการจะต้องรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับสังคม และผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ เป็นอย่างไร ผลกระทบหลักที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจคืออะไร และองค์กรจะดำเนินการอย่างไรกับผลกระทบเหล่านั้น การนำวิธีการทำ CSR ที่ประสบความสำเร็จของบริษัทอื่นมาใช้ มิได้เป็นเครื่องรับรองว่าจะเกิดผลสำเร็จเช่นเดียวกับบริษัทนั้นๆ เสมอไป 

เพราะด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ต่างกัน มีความคาดหวังในเรื่องที่ต่างกัน และประเด็นผลกระทบที่ไม่เหมือนกัน ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ CSR ของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 

หลายองค์กรพยายามค้นหากิจกรรม CSR ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และต้องการรวมทรัพยากรเพื่อทำเรื่องนั้นเรื่องเดียวให้ได้ผล จะได้ไม่สะเปะสะปะ หรือใช้ทรัพยากรอย่างกระจัดกระจาย ขณะที่บางองค์กรคิดไกลถึงขนาดที่จะสร้างตราสินค้าหรือแบรนด์ ให้กับการทำ CSR เพื่อสร้าง Perception 

ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า กิจการไม่ได้มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพียงกลุ่มเดียว และแต่ละกลุ่มก็มีความคาดหวัง หรือผลกระทบที่ได้รับจากการประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน การดำเนินกิจกรรม CSR เพียงกิจกรรมเดียวจึงไม่อาจตอบสนองต่อผลกระทบ ความคาดหวัง หรือเฉพาะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มเดียวได้ 

ในทางปฏิบัติ องค์กรจำต้องทำ CSR มากกว่าเรื่องเดียว โดยเน้นการตอบสนองต่อเรื่องที่มีนัยสำคัญ ซึ่งได้ผ่านการหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลกระทบ (ทั้งทางบวกและทางลบ) ที่เกี่ยวข้อง 

ข้อสังเกตสำหรับองค์กรที่เน้นการทำกิจกรรม CSR เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มักจะเป็นกรณีที่องค์กรหวังผลด้านการสื่อสารกับสังคมโดยรวมในเชิงของการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้าง Perception 

ความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่สินค้าที่ต้องตีตราหรือติดแบรนด์ในตัวเอง แต่เป็นคุณลักษณะ (Attribute) ที่ต้องสร้างให้มีขึ้นและผูกอยู่กับภาพลักษณ์ (Image) ในระดับองค์กร และสามารถถ่ายทอดลงมาอยู่ในระดับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ขององค์กรจนมีอัตลักษณ์ (Identity) เป็นที่จดจำและยอมรับ 

การสร้างแบรนด์ให้กับกิจกรรม CSR เป็นรายกิจกรรมหรือรายโครงการ มิใช่คำตอบที่จะนำไปสู่การวัดเป็นความสำเร็จของการดำเนินงาน หากแต่ต้องพัฒนา CSR ให้ไปเสริมหนุนภาพลักษณ์ขององค์กรและแบรนด์ทางธุรกิจ หรือตราสินค้าที่มีอยู่ให้เป็นที่ยอมรับ

เมื่อ Perception ไม่ใช่เรื่องเดียวกับ Performance การทำ CSR เพื่อให้ได้มาซึ่งความยั่งยืน จึงต้องแยกแยะและชั่งน้ำหนักระหว่าง “สิ่งที่เห็น” กับ “สิ่งที่เป็น” อย่างรอบคอบ เพราะเมื่อ “ชื่อเสียง” ที่องค์กรเพียรพยายามสร้าง กลายเป็น “ชื่อเสีย” เสียแล้ว ก็ยากที่จะกอบกู้คืนให้ดีดังเดิม



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


5 ขั้นตอนง่ายๆ ขับเคลื่อนสู่องค์กรรักษ์โลก

5 เทคนิคปั้นแบรนด์ให้ปังด้วยพลังรักษ์สิ่งแวดล้อม


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

“บริษัท ไพบูลย์ โปรดักส์ จำกัด” เริ่มต้นจากศูนย์ สู่อาณาจักรขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ของไทย

“บริษัท ไพบูลย์ โปรดักส์ จำกัด” เริ่มต้นจากศูนย์ สู่อาณาจักรขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ของไทย

ในโลกธุรกิจ SME ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว บางคนเริ่มจากเงินทุนที่มีอยู่ บางคนเริ่มจากธุรกิจครอบครัว บางคนเริ่มจากความฝัน แต่ “บริษัท ไพบูลย์…
pin
5 | 13/06/2025
เปิดเส้นทาง “ไร่เชษฐ์เจริญชัย” สู่ Smart & Sustainable Farming  โดยผู้บริหารรุ่นใหม่ที่สร้างคุณค่าจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ

เปิดเส้นทาง “ไร่เชษฐ์เจริญชัย” สู่ Smart & Sustainable Farming โดยผู้บริหารรุ่นใหม่ที่สร้างคุณค่าจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ

ความเปลี่ยนแปลงและวิกฤตสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ภัยแล้ง ไปจนถึงกฎระเบียบใหม่…
pin
13 | 06/06/2025
“บริษัท ซุปเปอร์แมน โฟม อินดัสตรี้ จำกัด”  จากโรงงาน OEM สู่ผู้นำตลาดเฉพาะทาง ด้วยนวัตกรรม 3D Printing กลยุทธ์เชิงรุกและความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

“บริษัท ซุปเปอร์แมน โฟม อินดัสตรี้ จำกัด” จากโรงงาน OEM สู่ผู้นำตลาดเฉพาะทาง ด้วยนวัตกรรม 3D Printing กลยุทธ์เชิงรุกและความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความแม่นยำ และคงไม่มีลูกค้าคนใดอยากให้สินค้ามูลค่าสูงเสียหายเพียงเพราะ “บรรจุภัณฑ์ไม่พอดี”…
pin
16 | 30/05/2025
การทำ CSR เชิง Perception และ Performance แตกต่างกันอย่างไร