วงการพลาสติกเจอทางแยก ชีวภาพ- รีไซเคิล แบบไหนคือยั่งยืน?
“พลาสติก” วัสดุที่ผลิตขึ้นมาจากการสังเคราะห์
ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตปิโตรเลียม สามารถใช้ทดแทนวัสดุประเภทอื่นๆ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติด้านความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา สะดวกสบาย
ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
แถมยังสามารถปรับแต่งคุณสมบัติได้หลากหลายตามความต้องการ ด้วยการสังเคราะห์และใส่สารเติมแต่ง
นอกจากนี้พลาสติกยังใช้ทรัพยากรในการผลิตน้อยกว่า
จึงทำให้พลาสติกมีต้นทุนต่ำและได้รับความนิยมในหลากหลายอุตสาหกรรม จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา
อย่างไรก็ตามหากจัดการไม่ดี พลาสติกก็ทำให้เกิดปัญหาขยะ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาระดับโลกส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อกลายเป็นขยะที่ไม่มีวันย่อยสลายได้ ซึ่งในกระบวนการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการขยะจากบกอย่างมีประสิทธิภาพ มีการคัดแยกขยะและทิ้งให้ถูกที่ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีพลาสติกให้ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทาง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
COVID-19 ทำให้มุมมองพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวเปลี่ยนไป
เห็นได้ว่าเทรนด์ด้านพลาสติกในช่วงที่ผ่านมานับว่าเป็นกระแสลบเสียส่วนใหญ่
จากประเด็นการเพิ่มขึ้นของขยะพลาสติกในทะเล
และธุรกิจที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อสภาวะแวดล้อมของโลก
อย่างไรก็ตามในช่วงวิกฤตการระบาดของไวรัส
COVID-19 พลาสติกถูกนำไปใช้งานต่างๆ
ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ทำให้การใช้พลาสติกได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้ง อาทิด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค
การเพิ่มอายุสินค้าบนชั้นวาง และสุขอนามัย
Mara Hancker ผู้อำนวยการจัดการของ German Association for
Plastics Packaging and Films กล่าวว่า ทุกวันนี้ไม่มีใครอยากฟังเกี่ยวกับประโยชน์ของพลาสติก
และกลุ่มเรียกร้องให้เลิกใช้พลาสติกนั้นมีเสียงมากจนกลบข้อเท็จจริงหลายอย่างไป
อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้บริโภคได้เริ่มเปิดมุมมองใหม่ๆ
เกี่ยวกับการใช้ถุงพลาสติกขึ้นมาอีกครั้งหลัง จากประเด็นเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยกลับมามีความสำคัญ
ธุรกิจรีไซเคิลพลาสติกในยุโรปกำลังย่ำแย่
ขณะที่กระแสการนำพลาสติกมาใช้ใหม่ด้วยการรีไซเคิลเป็นเทรนด์ที่นิยมในยุโรปเกิดขึ้นมากมาย
แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฏว่าอุตสาหกรรมรีไซเคิลพลาสติกในทวีปยุโรปกำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่อการปิดตัว
จากผลกระทบจาก COVID-19 โดย Plastics
Recyclers Europe (PRE) ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนของบริษัทผู้รีไซเคิลพลาสติกกล่าวว่า
ปัญหาหลักนั้นเกิดจากความต้องการที่ลดลง ผลจากการปิดตัวของโรงงานแปรรูปและราคาพลาสติกใหม่ที่ต่ำเป็นประวัติการณ์
จากกิจกรรมทางธุรกิจที่ลดลงทั่วโลก
Tom Means ประธานของ PRE ให้ความเห็นว่า ถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบเดิมต่อเนื่องโดยไม่มีการแก้ไข
ธุรกิจพลาสติกรีไซเคิลจะไม่มีกำไรและส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการรีไซเคิลของ EU
และการเปลี่ยนไปสู่การใช้งานพลาสติกหมุนเวียน ซึ่งในกรณีนั้นขยะพลาสติกที่รีไซเคิลได้ก็จะถูกส่งไปฝังกลบหรือเผาทำลายอย่างไม่มีทางเลือก
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดรีไซเคิลไม่จำกัดอยู่แต่ในแง่ของสิ่งแวดล้อม
แต่จะกระทบต่อการจ้างงานของอุตสาหกรรมกำจัดขยะทั้งวงจร ทั้งนี้อุตสาหกรรมรีไซเคิลพลาสติกเรียกร้องให้
EU และประเทศสมาชิกรวมเอาการรีไซเคิลเป็นหนึ่งใน sector
ในแผนการฟื้นฟู เพื่อให้การเดินหน้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
ขณะเดียวกันการปกป้องการพัฒนาในตลาดนี้
มีความสำคัญต่อการลดการใช้งานพลาสติกใหม่ในยุโรปและการลงทุนอื่นในอุตสาหกรรมนี้
ซึ่งบริษัทรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการหมุนเวียนการใช้พลาสติก และการเปลี่ยนไปสู่รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
คิดต่าง! พลาสติกชีวภาพอาจไม่ยั่งยืน
อีกแงมุมที่น่าสนใจคือ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในอุตสาหกรรมพลาสติกและกลุ่มสิ่งแวดล้อม
ได้วิพากย์วิจารณ์ถึงแนวคิดของพลาสติกชนิดสลายตัวได้ (compostable plastic) ว่าเป็นแนวคิดที่ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากพลาสติกชีวภาพในปัจจุบันไม่สามารถสลายตัวได้สมบูรณ์แบบ
หรือเร็วพออย่างที่ผู้ประกอบการโรงงานย่อยสลายเชิงพาณิชย์ต้องการ
โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นิตยสาร Bioplastics News ในสหราชอาณาจักร
ได้ตีพิมพ์บทความว่า
“อุตสาหกรรมโรงงานย่อยสลายไม่ต้องการพลาสติกชนิดสลายตัวได้
เราควรโฟกัสไปที่การรีไซเคิลพลาสติกชีวภาพและหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกแบบย่อยสลายได้”
นอกจากนี้ อีกหนึ่งบทความกล่าวว่า “แม้ว่าบรรจุภัณฑ์พลาสติกจะอ้างว่าสามารถย่อยสลายได้
100% แต่การย่อยสลายนั้นจำเป็นต้องนำไปย่อยในโรงงานย่อย
ซึ่งหมายความว่าต้องมีโปรแกรมการเก็บขยะจากชุมชนที่มีประสิทธิภาพ มิเช่นนั้นถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้นี้ก็จะไปจบลงในที่ฝังกลบขยะเหมือนขยะทั่วไป”
ขณะที่เครือ Tesco ผู้ประกอบการธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ตในสหราชอาณาจักร
ได้เปลี่ยนวิธีการดำเนินการเช่นเดียวกันและเลิกใช้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดที่เขียนว่าสามารถย่อยสลายได้
แต่ให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้แทน ซึ่งหมายถึงการกลับมาใช้ PET,
HDPE และ PP ในขณะที่ PLA,
oxy/oxodegradable และพลาสติกย่อยสลายได้อื่นๆ จะถูกห้ามใช้ เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างสะดวก
ซึ่งเป้าหมายของ Tesco คือการช่วยให้ลูกค้าใช้พลาสติกน้อยลงและรีไซเคิลมากขึ้น
ทั้งนี้พลาสติกชีวภาพมักเป็นปัญหาเสมอในระบบการรีไซเคิล
เนื่องจากผู้รีไซเคิล PET มักจะกังวลถึงการปะปนของ
polylactic acid (PLA) เข้ามาซึ่งจะทำให้การรีไซเคิลทั้งชุดได้รับผลกระทบ
โดยพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจาก PLA กำลังได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
ในสินค้าอย่างถ้วยชนิดใช้ครั้งเดียวหรือบรรจุภัณฑ์และหีบห่อต่างๆ ไปจนถึงของเล่นเด็ก อย่างไรก็ตามพลาสติกชนิดนี้ต้องนำไปกำจัดโดยการฝังกลบหรือนำไปย่อยสลายในโรงงานโดยเฉพาะ
หรือทิ้งให้ย่อยสลายเองซึ่งอาจใช้ระยะเวลาหลายเดือน
ตลาดพลาสติกชีวภาพเติบโต 9.4%
ในปีที่ผ่านมา
กระนั้นในปีที่ผ่านมาได้มีการใช้วัสดุที่ย่อยสลายทางชีวภาพได้เพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากกฎหมายกฎระเบียบของรัฐบาลหลายแห่งที่สั่งห้ามการใช้พลาสติกแบบดั้งเดิม
และการตระหนักรับรู้ถึงผลกระทบของพลาสติกในหมู่คนทั่วไปที่เพิ่มมากขึ้น ก็ช่วยส่งผลให้ตลาดพลาสติกชีวภาพนั้นมีการเติบโต
พลาสติกชีวภาพที่มีการเติบโตสูงส่วนใหญ่เป็นพลาสติกที่ผลิตจากแป้ง
ซึ่งถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
การเกษตร ยานยนต์ และสิ่งทอ โดยเฉพา PLA เป็นหนึ่งในพลาสติกที่ถูกนำไปใช้มากที่สุด ทั้งในการผลิตบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์สามมิติ
ขณะที่การแบนพลาสติกโดย European Commission ที่ผ่านมาคาดว่าจะมีผลช่วยกระตุ้นให้เกิดการเติบโตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์
รวมถึงการใช้งานพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพในอุตสาหกรรมการแพทย์ ในการหุ้มตัวยาหรือการผ่าตัดต่างๆ
ก็เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์จะยังคงเป็นผู้ใช้งานหลักของพลาสติกชีวภาพ
เห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมพลาสติกกำลังเดินทางมาถึงทางแยกที่อาจจะต้องเลือก
ว่าจะมุ่งไปในทิศทางใด ระหว่างพลาสติกแบบรีไซเคิลและพลาสติกชีวภาพ
ขณะที่ภาคธุรกิจก็ต้องคิดหาหนทางเช่นกันว่าจะปักใจใช้พลาสติกแบบใด
ทางเลือกใหม่ PCR เม็ดพลาสติกรีไซเคิลตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก
PCR คือ การนำพลาสติกที่ใช้งานแล้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล
เป็นเม็ดพลาสติกและขึ้นรูปเป็นสินค้าเพื่อใช้งานโดยตรง
ซึ่งเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ได้จะเรียกว่า Post-Consumer Recycled (PCR)
Resin และมีการใช้งานโดยผสมกับพลาสติกใหม่ และหรือปรับแต่งคุณสมบัติด้วยสารเติมแต่งเพื่อให้ได้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ
เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ บรรจุภัณฑ์ รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพสูงเพิ่มมากขึ้น
ด้วยหลักการ Circular Economy หรือการหมุนเวียน ผลิต-ใช้-วนกลับ ( Make-Use-Return) ที่จะเปลี่ยนกระบวนการของการผลิต
การบริโภค และการใช้ชีวิต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทำให้เกิดของเสียน้อยที่สุด
และเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการของเสียให้ถูกนำกลับไปเป็นทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในระบบด้วยกระบวนการที่เหมาะสม
ปัจจุบันใช้เม็ดพลาสติก PCR หรือ Post-Consumer Recycled
Resin เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ใช้งานบรรจุภัณฑ์พลาสติก
จะเห็นได้ว่าบรรดาเจ้าของแบรนด์สินค้ายักษ์ใหญ่เกือบทุกรายต่างออกนโยบาย และประกาศเป้าหมายการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของตนเองให้ผลิตจาก
PCR มากขึ้น
เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม และมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อาทิ
Nestlé เพิ่มปริมาณพลาสติก PCR ที่ใช้ผลิตขวดน้ำดื่มที่ขายทั่วโลกเป็น
35% (และ 50% ในบางประเทศ) ภายในปี 2025
SC Johnson เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของพลาสติก PCR ที่ใช้ในขวดที่ผลิตในอเมริกาเหนือและยุโรปจาก
20% เป็น 40% ภายในปี 2025
Unilever ใช้ PCR อย่างน้อย 25% สำหรับบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายในปี 2025 ทางบริษัทจะลดการใช้พลาสติกชนิดบริสุทธ์ลงครึ่งหนึ่งหรือกว่า
100,000 ตัน และจะเพิ่มการใช้พลาสติกรีไซเคิล
ซึ่งโดยรวมแล้วจะทำให้ใช้พลาสติกใหม่ไม่เกิน 350,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ทางบริษัทจะยังช่วยเก็บรวบรวมและแปรรูปบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับคืนมาให้ได้มากกว่าที่จำหน่ายออกไป รวมทั้งในปัจจุบันมีบางสินค้าที่ใช้ PCR
100% แล้ว
Coca Cola ได้มีการเปิดตัวขวดตัวอย่างที่ผลิตจากพลาสติกที่ได้จากการรีไซเคิลขยะพลาสติกในทะเล
และประกาศใช้บรรจุภัณฑ์ซึ่งผลิตจากวัสดุรีไซเคิลในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 50% ของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2033
PepsiCo ได้ประกาศตั้งเป้าหมายที่จะลดการใช้พลาสติกบริสุทธ์ลง
35% ภายในปี 2025 ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ทดแทนชนิดอื่น
ซึ่งการลดการใช้พลาสติกนี้จะช่วยลดพลาสติกกว่า 2.5 ล้านตัน
จากการใช้งานวัสดุรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ทางเลือกสำหรับแบรนด์เครื่องดื่มต่าง ๆ
พลาสติก PCR นับเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดการนำ
Circular Economy มาปรับใช้ในธุรกิจ เป็นการลดการใช้ทรัพยากรใหม่
โดยการหมุนเวียนให้วัสดุพลาสติกสามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
ขณะที่ผู้ผลิตไทยในปัจจุบันก็เริ่มตื่นตัวกับกระแสการนำพลาสติก PCR มาใช้ในภาคการผลิตมากขึ้นเช่นกัน
แหล่งที่มา : สถาบันพลาสติก
: http://www.allaroundplastics.com/