ทำไม AI and Machine Learning จึงสำคัญกับการตลาดออนไลน์

ท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจในยุคปัจจุบันที่รุนแรง หากองค์กรหรือบริษัทใดไม่ยอมปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลง โอกาสที่จะถูกบริษัทคู่แข่งแซงหน้าไม่เห็นฝุ่น เนื่องจากหลายองค์กรธุรกิจต่างนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning จะช่วยทำตลาดเพิ่มยอดขาย เช่นเดียวกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) แม้ว่ามีงบประมาณน้อยก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างง่าย หากนำเทคโนโลยีมาใช้ก็สามารถแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ได้ไม่ยาก

ความแตกต่างระหว่าง AI และ Machine Learning นั้นได้สร้างความสงสัยให้กับผู้ไม่สันทัดกรณี หรือมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับ 2 ชื่อดังกล่าว ถ้าจะกล่าวโดยย่อที่สุดก็คือ AI นั้นเป็นชื่อที่กว้างมากที่สุด ซึ่งหมายถึงศาสตร์แขนงใหม่ที่พยายามศึกษาและสร้างความฉลาดขึ้นมา (คำว่า “ศาสตร์” ในที่นี้มีความทำนองเดียวกันกับการเรียกในวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์) และ Machine Learning ก็คือแขนงย่อยของ AI ซึ่งจะช่วยให้ SMEs วิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ทำให้ผู้ประกอบการและทีมงานสามารถตัดสินใจในการเดินหน้าโครงการธุรกิจไปได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ขณะเดียวกันระบบวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นจะรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น และช่วยให้สามารถตรวจสอบหาสาเหตุข้อดีและเสีย แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อนในปัจจุบัน ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องทำมากกว่านั้น กล่าวคือ จะต้องสามารถบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล ที่ลูกค้าสร้างขึ้นระหว่างที่ลูกค้าติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางและอุปกรณ์ต่างๆ

จากนั้นผู้ประกอบการจะต้องสำรวจตรวจสอบและใช้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ผ่านทุกช่องทางการติดต่อสำหรับเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า เพื่อมอบความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ตลอดทั้งให้บริการได้อย่างดีเยี่ยมทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตามการดำเนินการเป้าหมายหลัก คือการวิเคราะห์และการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้สำหรับองค์การ ด้วยเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะช่วยระบุการดำเนินการที่ดีที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องการดำเนินกระบวนการทางธุรกิจโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ยังช่วยเพิ่มความสะดวก ยกระดับ และขยายขอบเขตงานของผู้ประกอบการ และแบ่งเบาภาระงานที่ตึงเครียดและน่าเบื่อให้ลุล่วงไปด้วยดี ถ้าหากดำเนินการอย่างเหมาะสม ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ทุกคนในบริษัท ไม่ใช่แค่ผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คน ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ผู้บริหารเกือบ 85% เชื่อว่า AI และ Machine Learning จะช่วยให้บริษัทได้รับหรือรักษาความได้เปรียบด้านการตลาดเหนือคู่แข่ง

AI มีบทบาทสำคัญวิเคราะห์ข้อมูลตลาดศักยภาพสูง

หากปราศจาก AI ระบบวิเคราะห์ข้อมูล จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ผู้ประกอบการเลือกและคำถามที่คุณได้จัดเตรียมคำตอบเอาไว้ โดยจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างรายงานและแดชบอร์ดและนำไปใช้งานอย่างเหมาะสม ต้องศึกษาข้อมูลเพื่อค้นหาปัญหา วิธีแก้ไข โอกาส ความเสี่ยง และตรวจสอบว่าทุกอย่างถูกต้อง รวมทั้งเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เปลี่ยนไป อัตราการเปลี่ยนแปลง และผลกระทบที่ตามมา ก็จะไม่พบสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ เพราะแดชบอร์ดรายงานแต่เฉพาะสิ่งที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยี Machine Learning เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ประกอบการ จะรับรู้ถึงแบบแผนของกิจกรรม และแจ้งเตือนเฉพาะในกรณีที่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

การนำ AI มาทำการตลาดมีศักยภาพเหนือกว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตรงที่มี machine learning เครื่องจักรที่สามารถเรียนรู้และแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง โดยใช้อัลกอริธึมซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่ทำให้เครื่องจักรคิดเป็นเหมือนมนุษย์แต่ทำงานเร็วกว่ามาก อย่างการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาล หากนักการตลาดต้องลงมือรวบรวมข้อมูล ศึกษาและวิเคราะห์เอง อาจใช้เวลานานมาก แต่ AI จะเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ช่วยเสมือนจริง (virtual assistant) ในการประมวลข้อมูลก้อนใหญ่นั้นและสรุปออกมานักการตลาดมองเห็นภาพกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ทำให้ทีมการตลาดสามารถวางแผนทำแคมเปญหรือการประชาสัมพันธ์ได้รวดเร็วและตรงกลุ่ม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีงบประมาณน้อย แต่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตอบโจทย์ลูกค้าตรงจุด

Machine Learning ทำโฆษณาได้ผลทั้งออนไลน์และออฟไฟล์

Machine Learning  ซึ่งเป็นชุดคำสั่งย่อยของ AI ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมไว้อย่างชัดเจน โดย Machine Learning สามารถทำโฆษณาออนไลน์ที่นิยมมากที่สุด และทำการได้ตลาดผ่าน Google และ Facebook  ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หากทำการตลาดผ่าน Google จะทำการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคจากฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้า และเสนอเป้าหมายใหม่ๆ ช่วยให้การโฆษณาสินค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและตรงตามวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แสดงความสนใจที่ตรงหรือใกล้เคียงกับสิ่งที่บริษัทวางแผนเอาไว้ คล้ายกับ custom audience ของการทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง อย่างถูกที่ถูกเวลา

แต่หากทำการตลาดผ่าน Facebook นั้นจะมีความแตกต่างจากการทำโฆษณาออนไลน์บน Google คือ Facebook จะเน้นเรื่องการนำ Content ไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องมากที่สุด ซึ่งต่างจาก Google ที่จะเน้นเรื่อง Keywords หรือคำเสิร์ชจากกลุ่มเป้าหมาย โดยการทำโฆษณาบน Facebook นั้น สามารถเลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ทั้ง Demographic (เพศ อายุการศึกษา อาชีพ ภาษา สถานภาพสมรส) Location (ที่อยู่ไม่ว่าจะเป็นประเทศ จังหวัด อำเภอ เขต ถนน ซอย รหัสไปรษณีย์ สนามบิน หรือเจาะลึกขนาดระบุที่อยู่ ก็ทำได้) หรือ Interest (ความสนใจต่างๆ เช่น แฟชั่น, ความงาม, สุขภาพ, อาหาร, ท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งเพจต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายเป็นแฟนเพจหรือมักจะมีพฤติกรรม click, like, share, comment เป็นต้น)

ยุคเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อมนุษย์การทำตลาด โดยใช้  AI and Machine Learning สามารถทำให้ทุกอย่าง ทั้งในการตัดสินใจในข้อมูลหรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ขึ้นอยู่การตัดสินใจของมนุษย์ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถอ่านค่าจากเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้อยู่ ทำให้การทำงานได้ง่ายขึ้นเพราะมีผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะเข้ามาช่วยทำงาน ช่วยตัดสินใจ และช่วยดูแลธุรกิจได้อย่างมั่นคง

แหล่งอ้างอิง: https://stepstraining.com 

                      www.eworldmag.com 

                      https://blog.readyplanet.com  

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<

AI และ Machine Learning อาวุธการตลาดที่ SMEs ก็เอื้อมถึง 

5 กลยุทธ์ Social Commerce เพื่อเพิ่มยอดขาย