ขณะนี้มีการรายงานว่าตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากสถานการณ์ความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยหนึ่งในหุ้นที่ร่วงหนักมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศในเขตเอเชีย คือ
หุ้นในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีรายงานการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าหลายประเทศในเอเชีย
ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นได้ว่าประเทศไทยนั้นได้รับผลกระทบต่อสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดในจีนมากกว่าประเทศอื่นในเขตอาเซียน
จากโครงสร้างเศรษฐกิจที่นำไปเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวสูง
และมีการเชื่อมโยงทางการค้ากับประเทศจีนสูงเช่นกัน
ทำให้เกิดผลกระทบลุกลามในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวพัน ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง
เมื่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหยุดชะงัก
แรงงานภาคบริการทั้งหมดที่เกี่ยวพันจึงเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง ตกงาน
ในขณะที่ภาคการเกษตรนั้นไม่สามารถรองรับแรงงานภาคส่วนอื่นๆ ได้ จากสถานการณ์ปัญหาด้านรายได้และกลไกการตลาดที่สะสมเรื้อรังมายาวนาน
ทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงเป็นประเด็นอ่อนไหวที่น่าจับตามากในขณะนี้ เพราะมีความเปราะบางมาก่อนหน้าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีหลายภาคส่วนออกมาประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกจะติดลบและเสี่ยงเข้าสู่สภาวะถดถอยจนถึงไตรมาสถัดไป ซึ่งไทยกับจีนมีความเชื่อมลึกกันอยู่ในหลายปัจจัย เหตุการณ์โรคระบาดในจีนจึงส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยจากเหตุผลดังต่อไปนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
4 เหตุผลเชื่อมลึก ทำไมโควิด-19 ระบาดจีนจึงฉุดเศรษฐกิจไทยร่วง
1. จีนเป็นประเทศคู่ค้าลำดับหนึ่งกับประเทศไทยมาช้านาน จากสถิติกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า
ประเทศจีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญลำดับ 1
ของไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2558
และในปี พ.ศ.2562 ประเทศไทยมีมูลค่าการค้ากับประเทศจีนทั้งหมด
79,500
ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,305,500 ล้านบาท
เป็นสัดส่วนมูลค่าทางการค้า 16.5% มีมูลค่าการส่งออก 29,172 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 845,988 ล้านบาท
เป็นสัดส่วนการส่งออก 11.8 % โดยสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปจีน
ได้แก่
1.) เม็ดพลาสติก
2.) ผลไม้สด แช่เย็น
แช่แข็งและแห้ง
3.) เครื่องสำอาง สบู่
และผลิตภัณฑ์รักษาผิว
4.) อัญมณีและเครื่องประดับ
5.) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ
6.) ผลิตภัณฑ์ยาง
7.) เคมีภัณฑ์
8.) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
9.) เครื่องคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์และส่วนประกอบ
10.) ยางพารา
2. การท่องเที่ยวและการค้าของไทยยังพึ่งพาจีนสูงมาก
จากรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2562
ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยทั้งหมด 39,797,406 คน คิดเป็นรายได้เข้าประเทศทั้งสิ้น 1,933,368.23 ล้านบาท ซึ่งเป็นคนจีนทั้งหมด 851,385 คน มีรายได้สะพัดจากการท่องเที่ยวของคนจีนเป็นเงิน 39,557.25 ล้านบาท เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน ผลกระทบที่ไทยจะได้รับก็คือ ความเสียหายจากมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับจากการท่องเที่ยวของคนจีนและต่างชาติหดหายไปมากมายมหาศาล
โดยรายได้จากการท่องเที่ยวจีนคิดเป็น 28%
ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด
ซึ่งประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความนิยม จากที่ตั้งอันเหมาะสมทั้งในรูปแบบทัวร์และจับกลุ่ม
3. คนจีนแห่ลงทุนในไทยมากที่สุด ในช่วงปี 2560 – 2561
พบว่ามีทุนจีนไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดในโลก ในปี 2561 จีนเป็นนักลงทุนอันดับ 3
ของไทยรองจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์
มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริม 131 โครงการ
เป็นเงินลงทุนประมาณ 55,475 ล้าน
ซึ่งนักธุรกิจจีนให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะที่ไทยเป็น Hub ของอาเซียนในกลุ่มประเทศโครงการเส้นทางสายไหม (Belt and Road
Initiative หรือ BRI)
โดยมีการลงทุนในโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์และภาคการเกษตรของไทย
เป็นมูลค่ามากกว่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (passivesellingonline,2562)
https://www.passivesellingonline.com/thailand-1st-country-china-started-investing/
เมื่อจีนมีการเช้ามาลงทุนในไทย ก็จะเกิดการว่าจ้างแรงงานในไทย
ทำให้ฐานรายได้และเศรษฐกิจมวลรวมในประเทศดี
ภาคแรงงานหรืออุตสาหกรรมในที่เกี่ยวข้องก็เดินต่อไปได้
4. จีนเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าหลักของไทย จีนเป็นแหล่งผลิตสำคัญสำหรับสินค้าหลายอย่าง อาทิเช่น สิ่งทอ,ของเล่น,เครื่องจักร,ชิ้นส่วนรถยนต์,กล้อง,คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก และมีราคาต้นทุนต่อชิ้นต่ำ จากความได้เปรียบด้านแรงงานการมีจำนวนประชากรมากกว่า จีนจึงเป็นแหล่งผลิตสินค้าหลายรายการที่ไทยนิยมนำเข้ามา ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ไทยมีการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 50,327 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 1,459,483 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าเท่ากับ 21.3% เมื่อจีนสะดุดต้องหยุดปิดโรงงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โรงงานในไทยที่ต้องรอชิ้นส่วนจากจีน หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ค้าคนไทยที่อาศัยนำเข้าสินค้าราคาถูกมาขายจากจีนก็พลันสะดุดติดขัดไปด้วย
เศรษฐกิจไทยที่อิงจีนตลอดมาจึงออกอาการย่ำแย่จากวิกฤติโควิด-19 ในจีน
ที่แม้ว่าประเทศไทยจะมีอัตราการติดเชื้อไวรัสต่ำ
แต่เศรษฐกิจไทยกลับได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์นี้ในอัตราสูง
เพราะแค่ในวันที่จีนเกิดโรคระบาดแพร่กระจายในวงกว้าง
ก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจหลักอันเป็นบริการเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น การขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางบก
โรงแรมที่พัก ค้าปลีก และภัตตาคาร
ซบเซาจนปิดตัวและเลิกจ้างพนักงานไปแล้วหลายรายในขณะนี้
ด้วยเหตุจากการเอาภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปอิงกับจีนมากเกินไป
และไทยมีรายได้หลักมาจากแผนพัฒนาประเทศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
นี่จึงเป็นคำตอบง่ายๆ ว่า “ทำไมเมื่อจีนมีปัญหาเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด
แล้วจึงส่งผลลุกลามถึงเศรษฐกิจไทยทั้งระบบทั่วประเทศ.
แหล่งอ้างอิง :
http://tradereport.moc.go.th/Report/Default.aspx?Report=TradeThCountryTrade
https://api.dtn.go.th/files/v3/5d775bcbef41406e2967753a/download