เพราะอะไร? ทำไมต้องทำ Content SEO ให้กับสินค้าและบริการของเรา?
นั้นสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ทุกอย่างนั้นเริ่มต้นมาจากการค้าขายบน
Facebook ที่สามารถสร้างความสำเร็จให้แก่คนรุ่นใหม่ จากคนไม่มีอะไรจนกลายเป็นเศรษฐีร้อยล้าน
หรือแม้แต่ให้มียอดขายที่สามารถประคองธุรกิจต่อไปได้นั้นไม่ง่ายอีกแล้ว
จากการปรับปรุงปรับเปลี่ยนอัลกอลิทึ่ม Facebook จากนโยบายของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Elliot Zuckerberg) ผู้บริหารและก่อตั้ง ที่ได้ปรับโฉมการแสดง Feed ข่าวของเพจหรือแม้แต่พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ทำให้ผู้คนมองเห็นความเคลื่อนไหวของเพจ หรือแม้แต่ Feed ข่าวของเพื่อนๆ ได้น้อยลง ทำให้คนในแวดวงเพื่อนหรือผู้ใช้เฟซบุ๊กมองเห็นสินค้าและบริการของเราได้น้อยลงตามไปด้วย จึงทำให้การพึ่งพาการตลาดบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กนั้นไม่ง่ายอีกต่อไป แม้แต่จะกระหน่ำยิงแอดเท่าไหร่ก็ตาม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ด้วยเหตุนี้ การที่ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กทำตลาดเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่คาดไว้
ที่สำคัญอาจทำให้ต้นทุนในการจัดการเพิ่มขึ้นด้วย
โดยสินค้าและบริการจะมีระยะเวลาจำกัดอยู่แค่เพียงการซื้อโฆษณาจากทางเฟซบุ๊ก และแค่จำกัดอยู่แค่เพียงจำนวนของผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊กที่บัญชียังคงมีความเคลื่อนไหว
ถึงแม้จะมีรายงานจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กในประเทศไทย ปี พ.ศ.2562 ไว้ว่ามีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากถึง 45
ล้านบัญชี มีอายุตั้งแต่ 18-64 ปี ก็ตาม
แต่โปรดอย่าลืมว่าต่อให้จำนวนผู้ใช้บัญชีบนเฟซบุ๊กจากทั่วโลกจะมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี
กว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กก็อาจเป็นบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหว หรือไม่มีประสิทธิภาพมากพอต่อการเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ซึ่งมีผลมาจากการเปิดใช้ซ้ำบัญชีของคนเพียงหนึ่งคนที่สามารถสร้างบัญชีขึ้นใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวน
นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มใหม่ที่เปิดให้บริการเป็นรูปแบบเฉพาะมาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด
ทำให้ผู้คนไหลออกไปใช้งานในแพลตฟอร์มอื่นที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน อาทิเช่น Tiktok, Blockdit
ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าในอนาคตมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจะลดลง
จากการหนีไปใช้บริการช่องทางอื่น การพึ่งแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเพียงอย่างเดียวในการทำตลาด
ไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มคนอื่นๆ บนช่องทางออนไลน์อื่นๆ
ประกอบกับผู้บริโภคสมัยนี้มีความฉลาดมากขึ้น
Google Search เครื่องมือสร้างโอกาสบนออนไลน์
หากต้องการซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ ผู้บริโภคในยุคนี้ก็จะทำการสืบค้นหาข้อมูลของสินค้าและบริการนั้นๆ
เพื่อนำมาใช้ตัดสินใจก่อนซื้อเสมอ
ซึ่งในยุคสมัยที่มีคู่แข่งทางการค้าหรือธุรกิจมากแบบนี้ การทำ SEO สร้าง Story ads
หรือ Storytelling จึงเป็นเสมือนการสร้างแบรนด์ให้ชวนจำทำให้คนกลับมาเลือกซื้อหรือเรียกใช้บริการของเราซ้ำ
เพราะชื่นชมชื่นชอบคุณภาพสินค้าหรือบริการของที่มีความแตกต่างจากเรื่องเล่าที่เรามี
ดังนั้นการทำ Story ads ดีๆ บนเว็บไซต์
ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของตัวตนที่เราเป็น หรือสินค้าบริการที่เรามีนั้น
เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงสินค้าหรือบริการของเรามากขึ้น
เนื่องจากเรื่องราวนั้นยังคงอยู่ยืนยาวในระบบการสืบค้นของ google
จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะการจะทำให้สินค้าและบริการของเราติด Google Search จำเป็นต้องอาศัยการสร้างเนื้อหาข้อมูลแนว SEO (Search Engine Optimization) เข้าช่วย เพราะการเขียนเรื่องดีอย่างเดียวไม่ทำให้สินค้าหรือบริการของเราปังและดังได้ จำต้องอาศัยการสร้าง Content หรือเนื้อหาตามหลัก SEO เพื่อให้เข้าถึงการจดจำและจัดแสดงลำดับของระบบ Search Enging อันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ควบคู่ไปด้วย เพื่อทำให้เว็บไซต์ แบรนด์ หรือสินค้าของเรา ติดหน้า Search ลำดับแรกๆ หรือ ติดหน้าแรกๆ ของ Google Search
โดย Google Search นั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ การทำ
Adwords เป็นการซื้อพื้นที่โฆษณาจาก google และการทำ Contents SEO
เป็นการเขียนเรื่องราวดังกล่าวมา เป็นวิธีที่มีต้นทุนในการจัดการต่ำแต่มีความมั่นคงและอยู่ยืนยาวกว่า
เหมาะสำหรับธุรกิจสินค้าหรือบริการขนาดเล็ก โดยผ่าน Search Engine ต่างๆ เช่น
Google, Yahoo และ Bing แต่ในประเทศไทยจะเน้น Google Search เป็นหลัก เนื่องจากเป็นระบบการสืบค้นที่มีผู้คนนิยมใช้สูงถึง 90%
นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องทำ Content SEO
เพื่อบุกตลาดออนไลน์ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรื่องของเราติดหน้าแรกๆ ของ Google
นั่นเท่ากับว่า เป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้าและบริการของเรา หรือเป็นช่องทางให้ผู้คนเข้าถึงสินค้าและบริการของเรามากขึ้นนั่นเอง.