ท่องเที่ยวเรือยอร์ชบูม สบช่องดันสินค้าไทยขายบนเรือ

ช่วงต้นปีมานี้มีเรือสำราญนำเที่ยวขนาดใหญ่จากต่างประเทศทยอยเทียบท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี กันอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Diamond Princess, Supphire Princess, TUI และ Holland America Line ms Westerdam ซึ่งแต่ละลำบรรทุกนักท่องเที่ยวและลูกเรือไม่ต่ำกว่า 5,000 คนต่อลำ ซึ่งการเทียบท่าแต่ละครั้งจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนขึ้นฝั่งมาจับจ่ายใช้สอยและใช้บริการโปรแกรมท่องเที่ยวประจำเรือของตนเองกันอย่างคึกคัก

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 

โดยในช่วงปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค.2561 ถึงเดือน ม.ค.2562 นี้ คือช่วงไตรมาสแรก ท่าเรือแหลมฉบังสามารถต้อนรับเรือสำราญ จำนวน 37 เที่ยว หากเปรียบเทียบจากในปีงบประมาณ 2560 มีเรือสำราญเพียง 59 เที่ยวทั้งปี ส่วนในปีงบประมาณปี 2561 มีเรือโดยสารเข้ามาทั้งสิ้น 80 เที่ยว แต่ในปีงบประมาณ 2562 เพียงแค่ไตรมาสแรก มีเรือสำราญเข้ามาเทียบท่าแล้วถึง 37 เที่ยว แสดงให้เห็นถึงการส่งสัญญาณที่ดีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยโดยผ่านเรือสำราญ กลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องเองดูมีความคึกคักเป็นอย่างมากเช่นกัน

ทั้งนี้จากข้อมูลในเว็ปไซต์ของท่าเรือแหลมฉบังที่ตั้งข้อสังเกตว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาแล้ว ไม่ใช่เดินทางกลับในทันที โดยยังแวะท่องเที่ยวและพักผ่อนในพื้นที่ต่างๆ ภายในจังหวัดชลบุรีอีกด้วย และยังท่องเที่ยวต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เนื่องจากพบว่ารถที่ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ไปจอดส่งนักท่องเที่ยวอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา หรือสนามบินดอนเมือง

นอกจากนั้น ยังมีเครื่องบินเช่าเหมาลำมาลงที่สนามบินอู่ตะเภา จะเห็นได้ว่าเมื่อมาทางเรือแล้วยังไปเที่ยวทางบกยังจุดอื่นๆ โดยขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อไปอีก บางกลุ่มที่เดินทางมาโดยเครื่องบินแต่ขากลับจะมาขึ้นเรือสำราญแทน

ดันสินค้าไทย ขายบนเรือสำราญ

เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงแค่ธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงค์ของกระแสความนิยมในการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญที่มาเทียบท่าในประเทศไทย ยังเป็นโอกาสของธุรกิจSMEs ในกลุ่มสินค้าต่างๆ ด้วย  

ประเด็นนี้ น.ส.นิธิมา ศิริโภคากิจ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี สหรัฐฯ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ที่เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Florida-Caribbean Cruise Association (FCCA) ได้เผยแพร่รายงานภาพรวมของอุตสาหกรรมประจำปี 2562 พบว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวใช้บริการเรือสำราญทั่วโลก 28.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.6% โดยผู้โดยสารจองเกินกว่าห้องพักที่มีให้บริการมาโดยตลอด แม้จะมีเรือสำราญลำใหม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และคาดว่าในปี 2562 จะมีผู้โดยสารล่องเรือสำราญทั่วโลกถึง 30 ล้านคน จากเป้าที่ประเมินไว้ที่ 27.2 ล้านคน

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้การท่องเที่ยวทางเรือสำราญเติบโต มาจากนักท่องเที่ยวมีการโพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม ทำให้เป็นแรงผลักดันให้คนอยากออกไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น , กลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z มีแนวโน้มออกมาท่องเที่ยวเรือสำราญมากขึ้น , กลุ่มนักท่องเที่ยวบ้างาน ที่สามารถท่องเที่ยวไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ จากบริการที่มีความพร้อมบนเรือ , กลุ่มสตรี ที่มีแนวโน้มท่องเที่ยวแบบที่มีสตรีเป็นศูนย์กลางตามความสนใจ , กลุ่มนักท่องเที่ยวคนเดียว ที่มีแนวโน้มเติบโต เพราะการท่องเที่ยวบนเรือสำราญ ไม่ต้องหาข้อมูลมากเหมือนการเดินทางแบบอื่น

นอกจากนี้ ยังมีทัวร์ฟื้นฟูสุขภาพ โดยมีสายการเดินเรือที่ให้บริการกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพครบวงจรบนเรือมากขึ้น เช่น

- สปา สถานที่พักสูดออกซิเจน รายการอาหารเพื่อสุขภาพ และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ,

- มีการท่องเที่ยวแบบหาประสบการณ์ชีวิต เช่น การพาไปพิชิตเส้นทางสู่ Machu Picchu ไปจนถึงการจัดอบรมวิธีปรุงอาหารโดยเซฟระดับ Cordon Bleu

- มีการนำสมาร์ทเทคโนโลยี มาใช้สำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล ทั้งพวงกุญแจ สร้อยคอ และสร้อยข้อมือ

- มีการท่องเที่ยวไปยังแหล่งที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ ยกเว้นผู้โดยสารเรือสำราญ เช่น หมู่เกาะกาลาปากอส และทวีปแอนตาร์กติก

- การผจญภัยนอกฤดูท่องเที่ยว ด้วยการนำเสนอประสบการณ์แบบครั้งเดียวในชีวิต เช่น การชมแสงเหนือ เยือนถิ่นอาศัยของเพนกวินและการท่องตลาดคริสต์มาสในยุโรป เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจสินค้าที่จำหน่ายบนเรือสำราญ พบว่า ในเรือสำราญมีบรรยากาศเหมือนกับเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยสินค้าที่จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว มีหลากหลาย ทั้งแบรนด์เนม แบรนด์ของเรือ และไม่มีแบรนด์ มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า หนังสือ สินค้าสำหรับเด็ก ของที่ระลึก เครื่องประดับ นาฬิกา สินค้าปลอดภาษี เช่น น้ำหอม บุหรี่ ช็อกโกแล็ต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล้อง มีกระทั่ง Art Gallery ที่ขายภาพศิลปะของแท้ หรือบาร์ที่ขายแก้วที่ระลึก

จากความต้องการสินค้าที่หลากหลายบนเรือสำราญ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่จะนำเสนอขายสินค้าให้กับเรือสำราญได้ โดยสินค้าไม่จำเป็นต้องมีแบรนด์ แต่ต้องมีคุณภาพ มาตรฐาน เพราะหากเรือสำราญสนใจซื้อก็จะนำไปติดเป็นแบรนด์ของเรือ

อย่างไรก็ตามหากต้องการเปิดตลาด มีงานแสดงสินค้าที่ควรจะเข้าร่วม ได้แก่ งาน Seatrade Europe กำหนดจัดขึ้นวันที่ 11-13 ก.ย.2562 ณ เมือง Hamburg ประเทศเยอรมนี และงาน Seatrade Cruise Global 2020 วันที่ 21-23 เม.ย.2563 ณ เมืองไมอามี สหรัฐฯ