Zero Waste Agriculture คือ ระบบการผลิตทางการเกษตรให้ปลอดวัสดุเหลือใช้ จะว่าไปแล้วก็นับว่าเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในสภาวะปัจจุบันมีการเติบโตของประชากรอย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก
ทำให้อัตราการบริโภคมีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย
แน่นอนว่าผลิตผลทางการเกษตรนั้นจัดว่ามีความต้องการอย่างมากในทุกภาคส่วนทั่วโลก เพราะสิ่งของเพื่อการบริโภคต่างๆ
ล้วนมีพื้นฐานจากการผลิตภาคการเกษตรทั้งสิ้น แนวทางของการที่จะทำให้ผลิตผลทางการเกษตรให้เพียงพอกับความต้องการที่ไม่จำกัดนี้
มี 2 แนวทางที่ส่วนใหญ่นิยมทำกันคือ
1. การขยายพื้นที่ผลิตทางการเกษตร
ไม่ว่าจะเป็นการขยายพื้นที่เพาะปลูก ทำปศุสัตว์ ฯลฯ
2. การเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ให้สูงขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากแนวทางทั้ง 2
ที่ทั่วโลกนิยมปฏิบัติอยู่นั้น จะเห็นว่าแนวทางที่ 2 คือ การเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ให้สูงขึ้นนั้นจะเป็นสิ่งที่สามารถจะทำได้อย่างมีระบบ
และทำได้ง่ายกว่าแนวทางที่ 1 เพียงแต่จะต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้มากขึ้นด้วย
สำหรับแนวทางการทำ Zero Waste Agriculture นั้นจะต้องนำแนวทาง (Zero
waste Management) หรือแนวคิดขยะเหลือศูนย์มาประยุกต์ใช้
โดยยึดหลักการที่ว่า “ขยะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้” ยึดตามเป้าประสงค์คือ
“การทำให้ขยะเหลือน้อยที่สุดและกำจัดที่เหลือด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิผล”
การจัดการขยะเหลือศูนย์เป็นการดำเนินการแบบใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภค
ให้เกิดความตระหนักและร่วมมือที่จะปฏิบัติตาม
กรอบแนวคิดขยะเหลือศูนย์
1. ลดปริมาณของเสียที่จะทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด
เช่น การลดการใช้สารเคมีในการผลิตทางการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ปุ๋ยเคมี
ฯลฯฃ
2. การใช้วัตถุการผลิตที่สามารถนำกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด
เช่น การผลิตน้ำหมัก และปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง
3. การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(ใช้วัสดุการผลิตน้อย สร้างมลพิษน้อยลง) เช่น การใช้กระดาษบรรจุหีบห่อ
หรือการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกย่อยสลายได้
4.
การประชาสัมพันธ์หรือรณรงค์การการลดปัญหาขยะของเสีย เช่น การจัดงานรณรงค์ลดการใช้สารเคมี
การตรวจคัดกรองโลหิตเกษตรกรเพื่อหาสารเคมีตกค้างในร่างกาย
รวมทั้งการตรวจสารเคมีตกค้างในผลิตผล
5.
การพัฒนาการนำขยะกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ได้มากที่สุด เช่น
การนำขยะอินทรีย์มาแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก โดยผ่านกระบวนการย่อยสลายด้วยไส้เดือนดิน
6.
การช่วยยกระดับเป้าหมายทางเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ภายในชุมชน เช่น การส่งเสริมกระบวนการผลิตพืชผักให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยเป็นสากล
สามารถจำหน่ายในตลาดที่หลากหลายทั้งตลาดชุมชน ตลาดห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
7.
การสร้างงานให้กับชุมชนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา เช่น
การส่งเสริมอาชีพเสริมการผลิตพืชผัก และปัจจัยการผลิตอินทรีย์
ผ่านรูปแบบกระบวนการกลุ่มที่ถูกต้องตามกฎหมาย
จากตัวอย่างกรอบแนวคิดทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น แต่สิ่งที่จะเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้ จะต้องเริ่มมาจากนโยบายการจัดการขยะเหลือศูนย์ ซึ่งได้ถูกนำไปปรับเปลี่ยนนโยบายตามความเหมาะสมในแต่ละประเทศ แต่จะมีแนวโน้มและทิศทางที่คล้ายคลึงกัน คือ การวางเป้าประสงค์ของนโยบายสาธารณะจากทุกภาคส่วน แตกต่างกันในกระบวนการทางนโยบาย ที่แต่ละประเทศให้น้ำหนักและคุณค่าแตกต่างกันไปในแต่ละภาคส่วน
ประเทศไทย แนวคิดเรื่อง Zero Waste Agriculture
Zero Waste Agriculture เป็นกระแสที่กำลังมาแรงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ซึ่งนโยบายด้านการเกษตรของประเทศไทยยังคงเป็นไปตามตามกระแสของโลกคือ
เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) รวมไปถึงเกษตรเพื่อพลังงาน (Green Energy) เกษตรเพื่อสิ่งแวดล้อม
(Green Environment) และเกษตรเพื่อการท่องเที่ยว (Green
Tourism) ซึ่งก็มีองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนมุ่งไปสู่นโยบายของชาติที่กำหนดไว้
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่งของกระบวนการสร้าง
Smart farmer คือ การพัฒนา Smart Officer หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ
ซึ่งมีองค์ความรู้ทางวิชาการและนโยบาย สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนเกษตรกร
โดยชี้นำเกษตรกรตามแนวทางการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ เศรษฐกิจสีเขียว
(Green Economy) และ ระบบการผลิตทางการเกษตรให้ปลอดวัสดุเหลือใช้
(Zero Waste Agriculture) ซึ่งการก้าวสู่การเป็น “Smart Officer” ของเจ้าหน้าที่ หมายถึงการปรับกระบวนการทำงาน
โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงชนิด
และปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งปัญหาของสินค้าแต่ละชนิด
สำหรับในภาคเกษตรกร แนวทางการลดจำนวนขยะในการทำเกษตรให้เหลือศูนย์นั้น ปัจจุบันก็มีปรากฏเป็นรูปธรรมมากพอสมควร เช่น การใช้เศษวัสดุเหลือทิ้งในการผลิตไฟฟ้าชีวมวลในชุมชน หรือโรงไฟฟ้าชีวก๊าซจากสิ่งปฏิกูลในฟาร์ม การนำเศษวัสดุเหลือทิ้งมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หมุนเวียนภายในฟาร์ม หรือแปลงเกษตร ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรให้ความสำคัญกับการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้มากยิ่งขึ้น