ส่องแนวคิดแบรนด์ KA ผู้ผลิตครีมกันแดดเบอร์หนึ่งเมืองไทย มองไกลสู่ระดับโลก

SME in Focus
15/05/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 5926 คน
ส่องแนวคิดแบรนด์ KA ผู้ผลิตครีมกันแดดเบอร์หนึ่งเมืองไทย มองไกลสู่ระดับโลก
banner
ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางและเวชสำอางแบรนด์ KA ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคิดค้นสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคนไทย จากแนวคิดการบริหารธุรกิจของทายาทรุ่นที่ 2 คุณกรกมล ชัยวัฒนเมธิน ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาธุรกิจ และคุณนีรมล ชัยวัฒนเมธิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ปวีณ์มล จำกัด พร้อมเปิดความสำเร็จกว่า 37 ปี ท่ามกลางกระแสความแข่งขันอย่างดุเดือดในธุรกิจความงาม ที่เชื่อว่าแบรนด์ไทย ไม่แพ้ใครในโลก

ผู้บริหารแบรนด์ KA เล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นเภสัชกรทั้งคู่ โดยเริ่มต้นจากร้านยาเล็กๆ ในชุมชน ด้วยการพัฒนายาสูตรต่างๆ ซึ่งทดลองใช้จากลูกค้าที่มีแผลไฟไหม้ โดนน้ำร้อนลวก แผลเกิดจากอุบัติเหตุรถล้ม ปรากฏว่าแผลหายสนิทไม่ทิ้งรอยแผลเป็น จนตัดสินใจทำธุรกิจครีมวิตามินอีในแบรนด์ KA ขึ้นเป็นรายแรกในประเทศไทย พร้อมกับส่งจัดจำหน่ายให้กับร้านขายยาทั่วประเทศ
 


ปัจจุบันแบรนด์ KA ประสบความสำเร็จ เติบโตและได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศมายาวนานกว่า 37 ปี นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง จึงสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยทีมเภสัชกรที่มีความสามารถและประสบการณ์ เพื่อมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผลให้ผู้บริโภคทุกท่าน 

“เรามีเป้าหมายตั้งแต่แรกว่า เป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้ ไม่แพง เนื่องจากเราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสสินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุด”

โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ส่วน คือ ผลิตแบรนด์ตัวเอง และรับจ้างผลิต OEM (Original Equipment Manufacturer) สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ KA คือ กลุ่มครีมกันแดด สกินแคร์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ ภายใต้แบรนด์ Polka


คุณกรกมล ชัยวัฒนเมธิน ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปวีณ์มล จำกัด

ตอบโจทย์คนผิวแพ้ง่าย มัดใจลูกค้าอยู่หมัด

แบรนด์ KA มัดใจลูกค้าด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์สำหรับคนผิวแพ้ง่าย โดยการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว และมีคุณสมบัติไม่อุดตัน ไม่เป็นสิว ผิวได้รับความชุ่มชื่น ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญมาตั้งแต่ต้น 

“เราค่อยๆ ทำการตลาด บอกลูกค้าว่าในร่มก็มีแดดและรังสียูวี เมื่อก่อนคนทาครีมกันแดดเฉพาะตอนออกไปเจอแดดแรงๆ แต่ปัจจุบันเราทาครีมกันแดดในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกแดด หรือนั่งทำงานในออฟฟิศก็ทาครีมกันแดด”



คุณกรกมล เล่าให้ฟังอีกว่า ท่ามกลางกระแสความแข่งขันอย่างดุเดือดในธุรกิจความงาม ทำไมแบรนด์ KA ถึงแข่งกับคู่แข่งที่เป็นต่างชาติได้ เพราะแบรนด์รู้จักลูกค้าของตนเองเป็นอย่างดี และด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ความเข้มข้นของแสงแดดในเมืองไทยอยู่ขั้นสูงมาก และลูกค้าคนไทยผิวไม่เหมือนใคร มีผิวมัน ปนแห้ง 

ดังนั้นสินค้าที่ใช้แล้วต้องไม่มีความมัน ไม่อุดตัน ไม่เป็นสิว และต้องได้รับความชุ่มชื่น ซึ่งแบรนด์สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกันแดดที่เป็นเบอร์หนึ่งสำหรับสินค้าแบรนด์ไทย และถือว่าเป็นผู้บุกเบิกในตลาดครีมกันแดด เพราะด้วยความที่อยู่ในตลาดมานาน 

นอกจากมีชื่อเสียงในเรื่องครีมกันแดดแล้ว ผลิตภัณฑ์อีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ กลุ่มสกินแคร์ ทั้งบำรุงผิวหน้า บำรุงริมฝีปาก ที่ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าจนต้องกลับมาซื้อซ้ำ



พัฒนาสูตร เลือกใช้เทคโนโลยี ไม่พึ่งแอลกอฮอล์
  
สำหรับเทคโนโลยีที่แบรนด์เลือกใช้นั้น ก็ขึ้นอยู่สินค้าแต่ละประเภท เช่น การเลือกใช้เทคโนโลยีลดการระคายเคือง หรือเทคโนโลยีเพื่อให้คงความหอม พร้อมปกป้องประสิทธิภาพสารกันแดดได้อย่างยาวนาน และเทคโนโลยีที่ใช้ ยังช่วยเนื้อครีมมีความบางเบา เอาอยู่ไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์ เพราะแบรนด์มีความมุ่งมั่นตั้งแต่แรกว่าอยากให้คนไทยมีสุขภาพผิวดีในระยะยาว ดังนั้นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ KA จึงไม่ใส่แอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ และยังมีนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพกันแดดให้คงที่ ด้วย SPF50+ PA++++

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้แบรนด์ KA แตกต่างจากแบรนด์อื่น คุณกรกมลมองว่า ในการทำ R&D (Research and Development) หรือการการวิจัยและพัฒนาสูตร แบรนด์จะไม่เน้นตามเทรนด์แฟชั่น แต่จะคำนึงถึงสุขภาพผิวในระยะยาวของลูกค้าเป็นสำคัญ พร้อมทั้งมุ่งมั่นปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้ดีขึ้นไปด้วย พร้อมมองว่าทิศทางต่อไปของเครื่อง
สำอางในอนาคตน่าจะมุ่งไปที่เรื่องของส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ

นอกจากนี้ ด้านกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์ได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า



มากกว่า OEM บริการรับผลิต เป็นที่ปรึกษาและทำการตลาดเครื่องสำอางครบวงจร

นอกจากผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตนเองแล้ว ยังมีบริการรับผลิตเครื่องสำอางครบวงจร OEM (Original Equipment Manufacturer) โดยมีตั้งแต่บริการวิจัยและพัฒนาสูตร บริการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้และฉลากสินค้า บริการบรรจุสินค้า รวมทั้งบริการปรึกษาด้านการตลาด ซึ่งทางบริษัทพร้อมผลิตสินค้ารองรับลูกค้าทุกรูปแบบ หากใครสนใจอยากจะใช้บริการภายใน 4 เดือน สามารถนำสินค้ามาวางขายภายใต้แบรนด์ตนเองได้ทันที

สำหรับทิศทางตลาด OEM คุณกรกมลมองว่า ทิศทางตลาดนี้มองว่าไปได้อีกไกล เพราะทุกคนอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากจะเป็นเจ้าของสินค้า ซึ่งอนาคตเป็นไปได้ที่บ้านเราจะเหมือนญี่ปุ่น ที่แต่ละหมู่บ้านจะมีสินค้าเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่เหมือนกัน

ส่วนทิศทางการตลาดภายใต้แบรนด์ KA นอกจากขายในประเทศไทยแล้วยังส่งออกไปยังเอเชียในหลายประเทศ และมีที่ส่งออกในรูปวัตถุดิบ และไปติดยี่ห้อเองก็มีอยู่ 2 - 3 ประเทศ

“สินค้าของเราก็จะมีร้านค้า หรือตัวแทนติดต่อนำไปขาย เช่น ลาว กัมพูชา และมีที่ส่งออกในรูปของ OEM ด้วย”



มองเห็นโอกาส พาแบรด์ก้าวข้ามวิกฤต

ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแทบทุกภาคส่วน แต่ด้วยแนวคิดของผู้บริหารกลับมองมองวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการปรับตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่โควิดรอบแรก ด้วยการผลิตสินค้าเจลแอลกอฮอล์ ภายใต้แบรนด์ Polka ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างอินเทรนด์ สำหรับสินค้าโควิด 19 โดยสินค้ากลุ่มนี้เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และนอกจากจะขายให้คนไทยแล้ว สินค้ากลุ่มนี้ ยังส่งขายไปยังประเทศจีนอีกด้วย
 


ซึ่งการที่สามารถนำพาบริษัทรอดจากวิกฤตในแต่ละครั้งได้ คุณกรกมล มองว่า เนื่องจากแบรนด์มีทีมขายกระจายทั่วประเทศค่อนข้างเข้มแข็ง พร้อมกับการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับร้านโชว์ห่วยทั่วประเทศ บวกกับแนวคิดที่เข้าใจลูกค้า ถึงแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่เชื่อว่าการออกไปพบลูกค้าเองทุกครั้งเมื่อมีโอกาส จะสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดสินค้าให้เติบโตต่อไปได้

ท้ายนี้ คุณกรกมล ยังมองถึงตลาดเครื่องสำองค์กับโอกาสธุรกิจของแบรนด์ KA เชื่อว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่หยุดยั้ง อีกทั้งด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นสินค้าคุณภาพ เพื่อผิวพรรณสุขภาพดีในระยะยาว จะสามารถพาแบรนด์ไปสู่ระดับโลกได้  


รู้จักผลิตภัณฑ์แบรนด์ KA ได้เพิ่มเติมที่ : 



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

การเดินทางของ “น่านดูโอ คอฟฟี่”  ผู้บุกเบิกกาแฟโรบัสต้าจากภาคใต้สู่ภาคเหนือ พร้อมเคล็ดลับการหาช่องว่างในตลาดกาแฟ

การเดินทางของ “น่านดูโอ คอฟฟี่” ผู้บุกเบิกกาแฟโรบัสต้าจากภาคใต้สู่ภาคเหนือ พร้อมเคล็ดลับการหาช่องว่างในตลาดกาแฟ

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มคู่ใจสำหรับวัยทำงานคงหนีไม่พ้น “กาแฟ” ด้วยกลิ่นหอมละมุน รูปแบบการคั่วเมล็ดหลากหลายตามความชอบ เกิดเป็นรสชาติที่ทำให้หลายคนติดใจ…
pin
4 | 18/04/2025
“โรงหล่อ ก.เจริญ” ผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กหล่อไทยกว่า 50 ปี ด้วยนวัตกรรม Lean Manufacturing และ Automation

“โรงหล่อ ก.เจริญ” ผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กหล่อไทยกว่า 50 ปี ด้วยนวัตกรรม Lean Manufacturing และ Automation

ในโลกของอุตสาหกรรมการผลิต “วัตถุดิบโลหะ” ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักร…
pin
7 | 11/04/2025
เปลี่ยนขยะให้เป็นมูลค่าด้วย Zero-Waste

เปลี่ยนขยะให้เป็นมูลค่าด้วย Zero-Waste

แนวคิด Zero-Waste กลายเป็นกลยุทธ์ที่องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญหลายธุรกิจเริ่มตระหนักว่าการลดขยะไม่ใช่แค่ช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยลดต้นทุน…
pin
10 | 06/04/2025
ส่องแนวคิดแบรนด์ KA ผู้ผลิตครีมกันแดดเบอร์หนึ่งเมืองไทย มองไกลสู่ระดับโลก