จับตา! ทุนไทย-ต่างชาติ ทุ่มซื้อที่ดินใน EEC

SME in Focus
16/04/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 8708 คน
จับตา! ทุนไทย-ต่างชาติ ทุ่มซื้อที่ดินใน EEC
banner

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบไปด้วย 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง กลับมามีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เมื่อ“กลุ่มซีพี”ได้รับการสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) คิดมูลค่าการลงทุนกว่า 224,544 ล้านบาท ระยะเวลา 50 ปี

โดยมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปี 2566 ซึ่งไม่เพียงแต่พลิกโฉมเศรษฐกิจไทยทุกมิติแล้ว ยังผลักดันที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงราคาพุ่งกระฉูดตามไปด้วย โดยที่ดินเป็นทำเลทองที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ราคาผันผวนเกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด รองลงมาเป็นพื้นที่ระยองและฉะเชิงเทรา

อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากกรมโยธาธิการและผังเมืองคลอดผังเมืองอีอีซีออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบ ครม.ให้ประกาศใช้ประโยชน์ที่ดินอีอีซี เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนในปี 2565 และสนับสนุนการพัฒนาเมืองถึงปี 2580 ส่งผลต่อราคาที่ดินอีอีซีพุ่งติดจรวดหลายเท่าตัว

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 


ผลจากการที่กรมโยธาฯ จัดแผนการใช้ประโยชน์บนที่ดินอีอีซีอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ชาวบ้านนับแสนรายกลายเป็นเศรษฐีภายในพริบตา เพราะจากที่เคยซื้อขายที่ดินกันตารางวาละ 12,000 บาท ขยับขึ้นไปเป็น 40,000-50,000 บาทต่อตารางวา ถึงแม้ว่าที่ดินจะมีราคาแพงแต่กลุ่มนายทุนพร้อมที่จะควักเงินจ่ายซื้อที่ดินเพื่อครอบครองเป็นเจ้าของ เพื่อนำไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างเมืองใหม่อัจฉริยะ เป็นที่อยู่อาศัย หรือพัฒนารูปแบบศูนย์เศรษฐกิจ

สำหรับแผนผังอีอีซีจะแบ่งเป็นกรอบใหญ่ในการใช้ประโยชน์ที่ดิน 6 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย

1. แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน

2. แผนผังระบบสาธารณูปโภค ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,ระบบการควบคุมและขจัดมลภาวะ

3. แผนผังระบบคมนาคมและขนส่ง

4. แผนผังระบบการ ตั้งถิ่นฐานและภูมิสังคม

5. แผนผังระบบบริหารจัดการน้ำ

6. แผนผังระบบป้องกันอุบัติภัย


ที่ดินชลบุรีรับอานิสงส์พุ่งไร่ละ 80-100 ล้านบาท

กรมธนารักษ์ได้ทำการประเมินทุนทรัพย์ที่ดินในปี 2559-2562 พบว่าราคาที่ดิน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ถนนเลียบหาดพัทยา, ถนนพัทยาสาย 1 ราคาตารางวาละ 200,000 บาท หรือ ไร่ละ 80 ล้านบาท ,ถนนพัทยาใต้ ราคาตารางวาละ 17,000-180,000 บาท หรือไร่ละ 6-72 ล้านบาท, ถนนเลียบหาดนาจอมเทียน (จอมเทียนสาย 1) ตารางวาละ 65,000-85,000 บาท ไร่ละ 26-34 ล้านบาท, อำเภอเมือง ถนนสุขุมวิท ตารางวาละ 7,000-90,000 บาท ไร่ละ 2.8-36 ล้านบาท ,ถนนพัทยาสาย 2 ตารางวาละ 20,500-90,000 บาท 8.2-36 ล้านบาท, อำเภอศรีราชา ถนนเจิมจอมพล ตารางวาละ 15,000-70,000 บาท หรือตกละไร่ละ 6-28 ล้านบาท

ขณะที่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ถนนตากสินมหาราช ราคาประเมินตารางวาละ 35,000-60,000 บาท หรือไร่ละ 14-24 ล้านบาท, ถนนจันทอุดม ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3138 (ระยอง-บ้านค่าย) ตารางวาละ 40,000-50,000 บาท ไร่ละ 16-20 ล้านบาท, ถนนหลักเมือง ตารางวาละ 40,000-43,000 บาท ไร่ละ 16-17 ล้านบาท, ถนนราชภักดี ตารางวาละ 40,000-43,000 บาท ไร่ละ 16-17 ล้านบาท, ถนนราชวิมล 1 ตารางวาละ 35,000-40,000 บาท ไร่ละ 14-16 ล้านบาท, ถนนนพจกร ตารางวาละ 32,000-40,000 บาท ไร่ละ 12.8-16 ล้านบาท , ถนนภักดีบริรักษ์ ตารางวาละ 20,000-35,000 บาท ไร่ละ 8-14 ล้านบาท

ส่วนอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ถนนมหาจักรพรรดิ์ ตารางวาละ 45,000 บาท ไร่ละ 18 ล้านบาท, ถนนชุมพล ตารางวาละ 40,000 บาท ไร่ละ 16 ล้านบาท ,ถนนมรุพงษ์ ตารางวาละ 20,000-40,000 บาท ไร่ละ 8-16 ล้านบาท, ถนนเทพคุณากร ตารางวาละ 10,000-40,000 บาท ไร่ละ 4-16 ล้านบาท, อำเภอบางคล้า ถนนระเบียบกิจอนุสรณ์ ตารางวาละ 22,500 บาท ไร่ละ 9 ล้านบาท, ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3121 ตารางวาละ 6,000-17,500 บาท ไร่ละ 2.4-7 ล้านบาท, ถนนราษฎรอุทิศ ตารางวาละ 2,500-10,500 บาท ไร่ละ 1-4.2 ล้านบาท, อำเภอบางปะกง ถนนแผ่นดินหมายเลข 314 ตารางวาละ 8,000 บาท ไร่ละ 3.2 ล้านบาท, ถนนแผ่นดินหมายเลข 3 ตารางวาละ 6,000-8,000 บาท ไร่ละ 2.4-3.2 ล้านบาท, ถนนสุขุมวิท ตารางวาละ 6,000-8,000 บาท ไร่ละ 2.4-3.2 ล้านบาท

 

กลุ่มทุนไทย-ต่างชาติแห่กว้านซื้อที่ดินรองรับนักลงทุน

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) บอกว่า บรรยากาศการซื้อขายที่ดินรอบนอกอีอีซี เต็มไปด้วยความคึกคัก ไม่เพียงแต่กลุ่มทุนรายใหญ่ของไทย เช่น กลุ่มซีพี มีการกว้านซื้อที่ดินกักตุนไว้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ไร่ เช่นเดียวกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ต่างก็กว้านซื้อที่ดินกักตุนไว้รองรับกลุ่มนักลงทุนต่างชาตินับพันไร่

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะฮ่องกง และจีน ที่ต้องการซื้อที่ดินหลายหมื่นไร่ โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลจีน ก็มีความต้องการเป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่จำนวน 1 หมื่นไร่ เพื่อนำไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ป้อนผู้ประกอบการชาติเดียวกัน ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก และมีแผนตั้งเมืองใหม่อัจฉริยะรองรับกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกไปในตัว

“กลุ่มนักลงทุนจีน มีความประสงค์ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่ดินในอีอีซีมากกว่าจะเข้ามาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งในส่วนนี้คงไม่สามารถดำเนินการได้เอง เนื่องจากติดข้อกฎหมายที่ต่างชาติไม่สามารถจัดซื้อที่ดินได้เอง 100% หากจีนต้องการที่ดินก็จะต้องเป็นการร่วมลงทุนร่วมกับทางฝ่ายไทย”

ที่สำคัญในปี 2563 มีผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม แสดงความสนใจที่จะตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี อีกจำนวน 18 โครงการ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 35,000 ไร่

แม้ว่าโครงการอีอีซีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ปี แต่กลายเป็นทำเลทองของถนนนักลงทุนทั้งชาวไทยและทั่วโลก ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก และก่อมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจมหาศาลต่อปี จากเดิมภาคตะวันออกเป็นเพียงแค่แหล่งที่ตั้งโรงงาน และอยู่ใกล้เส้นทางส่งออกทางเรือเท่านั้น แต่ทุกวันนี้กำลังเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว


ทั้งนี้นับเป็นสิ่งที่ยากมากที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะไปแข่งขันกับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ทั้งไทยและต่างชาติในการจับจองทำเลทองต่างๆ แต่สามารถใช้ประโยชน์จากย่านทำเลทองดังกล่าวในทางอ้อม อาทิ การเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านค้า แฟรนไชส์ หรือแม้แต่การด้านการลงทุนตรงต่างชาติ ภายใต้การเข้าในลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดอีอีซี จะเกิดเป็นประชากรแฝงที่เป็นนักลงทุนต่างชาติ จะก่อให้เกิดดีมานด์มากมาย ทั้งสาธารณูปโภค ที่พักอาศัย และธุรกิจบันเทิง ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถนำไปต่อยอดสร้างธุรกิจได้


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


การส่งเสริมยานยนต์ EV โอกาสของ SMEs อยู่ตรงไหน?

“ฮ่องกง” แตกไลน์แห่ลงทุน“อีอีซี”


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ถอดบทเรียนแนวคิดต่างของ “เวิลด์กรีน พลัส” พลิกภาระสู่โอกาส เปลี่ยนของเสียให้เป็นมูลค่า

ถอดบทเรียนแนวคิดต่างของ “เวิลด์กรีน พลัส” พลิกภาระสู่โอกาส เปลี่ยนของเสียให้เป็นมูลค่า

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับแรงกดดันจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด การดำเนินธุรกิจในยุคที่…
pin
7 | 28/02/2025
แพทย์หญิงนักปรุงจาก “อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย” ชวน ไขความลับของผู้ผลิต Food Ingredients ผู้ช่วยตัวจริงของ อุตสาหกรรมอาหาร

แพทย์หญิงนักปรุงจาก “อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย” ชวน ไขความลับของผู้ผลิต Food Ingredients ผู้ช่วยตัวจริงของ อุตสาหกรรมอาหาร

ปัจจัยสำคัญที่ร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ประกอบด้วยหลายด้านด้วยกัน ทั้งในเรื่องของความสะอาด การบริการที่ได้มาตรฐาน…
pin
9 | 25/02/2025
จาก YouTuber ช่องดัง สู่การสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก BEARHOUSE และ SUNSU เจาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานที่อยากใส่ใจสุขภาพ และยังรักการกินขนม

จาก YouTuber ช่องดัง สู่การสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก BEARHOUSE และ SUNSU เจาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานที่อยากใส่ใจสุขภาพ และยังรักการกินขนม

จาก YouTuber ที่เคยรีวิวของเล่นจนสร้างชื่อเสียงและมีผู้ติดตามจำนวนมาก สู่การเป็นเจ้าของร้านชานมไข่มุกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช…
pin
13 | 10/02/2025
จับตา! ทุนไทย-ต่างชาติ ทุ่มซื้อที่ดินใน EEC