ผลสำรวจล่าสุดจาก IWG พบว่า งานที่มีความยืดหยุ่น (Flexible Working) เช่น เวลา
สถานที่ ฯลฯ ได้กลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกตำแหน่งงานหรือเปลี่ยนงาน
ซึ่งการสำรวจนี้ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 15,000 คนจากหลากหลายอุตสาหกรรมในกว่า
80 ประเทศทั่วโลก
เมื่อให้พนักงานจัดลำดับความสำคัญของผลประโยชน์ที่ได้จากที่ทำงานร้อยละ
80 ของพนักงานปฏิเสธงานที่ไม่ให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน
นอกจากนี้อีกร้อยละ 54 กล่าวว่า งานที่มีตัวเลือกในเรื่องของสถานที่ทำงาน มีความสำคัญมากกว่าการได้วันหยุดเพิ่ม ซึ่งแปลว่างานหนักไม่ใช่ปัญหา หากสามารถเลือกสถานที่ทำงานได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีนั้นทำให้เราสามารถที่จะทำงานได้ทุกเมื่อ
ทุกที่และทุกเวลา ทั้งยังสร้างความท้าทายให้กับธุรกิจต่างๆ
ด้วยว่าพวกเขาจะเลือกสร้างผลประโยชน์จากโอกาสนี้ให้มากที่สุดได้อย่างไร
บริษัทหลายแห่งเล็งเห็นและปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อผลประโยชน์ที่อาจได้จากการทำงานที่คล่องตัวนี้
พนักงานไม่เพียงแต่ได้ทำงานในสถานที่ที่หลากหลาย แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ความพึงพอใจ ความสามารถ และประสิทธิภาพของธุรกิจอีกด้วย
ทั้งนี้ พนักงานต่างเริ่มมองสิ่งนี้เป็นเสมือนบรรทัดฐานใหม่เมื่อต้องการก้าวสู่ขั้นต่อไปในการทำงานเพราะความต้องการของความคล่องตัวในการทำงานนั้นเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างไม่หยุดยั้ง
ในอุตสาหกรรมที่ใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน
อย่างเช่น ธุรกิจการให้คำปรึกษา และ ธุรกิจ ICT โดยทั่วไป ได้เริ่มปรับใช้โครงสร้างการทำงานแบบยืดหยุ่นแล้วเป็นจำนวนมาก
เพื่ออำนวยต่อการทำงานนอกสถานที่
เช่นเดียวกันกับผู้นำทางธุรกิจทั้งหลายที่เริ่มตระหนักได้ถึงความสำคัญ
และจุดเด่นของการทำงานแบบยืดหยุ่น ซึ่งส่งผลดีต่อการดึงดูดพนักงานที่มีศักยภาพสูง
รวมถึงเพิ่มความสุขในการทำงานให้พนักงานอีกด้วย
ในผลวิจัยฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นอีกว่าการที่พนักงานสามารถเลือกที่ทำงานได้เองนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่พนักงานคาดหวังที่จะได้รับและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงาน
โดยมากถึงร้อยละ 70 ของผู้ตอบแบบสอบถามแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเล็งเห็นว่าการมีตัวเลือกของสถานที่ทำงานเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่นำมาประเมินในการหาโอกาสใหม่ๆ
ทางสายอาชีพ
ที่ผ่านมา การทำงานที่ยืดหยุ่น มักนิยมใช้แค่ในกลุ่มพ่อแม่มือใหม่ ที่ต้องการอยู่ใกล้ลูกน้อย แต่ในปัจจุบันการทำงานแบบยืดหยุ่นที่ไม่ยึดติดกับสถานที่ ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างล้นหลามจากทุกระดับในอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างยุคมิลเลนเนียล ซึ่งคุ้นชินกับการสื่อสารตลอด 24 ชั่วโมง และชื่นชอบในความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้
ข้อดีของการทำงานแบบยืดหยุ่นที่สำคัญอย่างยิ่ง ได้แก่เวลาในการเดินทางไปทำงานที่ลดลง
ซึ่งเอื้อต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยพนักงานสามารถนำเวลา
และความกดดันในการเดินทางที่ต้องประเชิญกับรถติด
หรือผ่านระบบขนส่งมวลชนที่เบียดเสียดไปโฟกัสในการทำงานได้มากขึ้นเช่นกัน
ที่สำคัญยังช่วยส่งเสริมความหลากหลายในระดับอายุของหลายๆ องค์กร เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มคนเกษียณมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอีกด้วย