‘บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน’ ต้นทุนโลจิสติกส์ที่ธุรกิจต้องสนใจ
แนวคิด Sustainable Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน
เป็นแนวโน้มที่โดดเด่นของบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคหรือบริโภค
และตอบสนองต่อความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน โดยคำนึงถึงความต้องการของคนรุ่นต่อๆ
ไปในอนาคต การพัฒนาดังกล่าวประกอบด้วยกฎ 3P คือ 3
องค์ประกอบ
Planet สิ่งแวดล้อมเพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกสามารถดำรงชีวิตได้
จึงต้องคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม
และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งดิน น้ำ และอากาศ
People สุขภาพ
ความปลอดภัย และความเป็นอยู่อย่างมีคุณภาพของคนในสังคม
Profit การส่งเสริมด้านเศรษฐกิจของกิจการต่างๆ ซึ่งต้องมีผลกำไรที่พอเหมาะเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
อย่างไรก็ตาม
ในการพัฒนาที่ให้ผลที่ยั่งยืนอย่างยาวนานเท่าที่จะทำได้ต้องมีทั้ง 3 องค์ประกอบนี้เชื่อมโยงกันอย่างสมดุล
แต่ไม่จำเป็นต้องเท่าๆ กัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ลักษณะเฉพาะของการพัฒนา และเวลา
เป็นต้น บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ควรมีสมบัติและลักษณะเฉพาะ เช่น
1. สามารถรักษาสภาพของสินค้าได้
ให้ความสะดวกในการผลิต การลำเลียงขนส่งและการจัดจำหน่าย รวมทั้งการใช้งานโดยผู้บริโภค
2. ไม่ขัดต่อกฎระเบียบของประเทศที่จำหน่ายสินค้านั้น
3. มีความปลอดภัย
ไม่ก่อปัญหาด้านสุขภาพแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์นั้น
4. สามารถตอบสนองต่อความต้องการทางการตลาดได้ในราคาที่เหมาะสม
5. ผลิตมาจากวัสดุที่รีไซเคิลได้หรือจากทรัพยากรที่สร้างใหม่ได้
6. ได้รับการออกแบบทางกายภาพเพื่อการใช้วัสดุและพลังงานอย่างพอเหมาะ
ข้อที่ควรเข้าใจในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
หลายธุรกิจอาจมีเหตุผลในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนที่แตกต่างกัน
อาทิ ทำตามกระแส ทำตามคู่แข่ง ถูกบังคับด้วยกฎหมายของประเทศที่จำหน่ายสินค้าของเรา
ทำตามนโยบายของบริษัทแม่
ผู้ค้าปลีกหรือผู้นำเข้าสินค้าของเราให้ทำเพื่อเป็นจุดขายทางการตลาด
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ตราสินค้าและบริษัทของเรา
คำตอบเหล่านี้ไม่ผิด
แต่การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนยังมีข้อพึงระวังด้วยเช่นกัน คือ
1. วัสดุที่รีไซเคิลไม่ได้ใช้งานกับบรรจุภัณฑ์ทุกชนิด : เพราะต้องคำนึงถึงสมบัติของบรรจุภัณฑ์ในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ภายในเป็นหลัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น การใช้ฟิล์มพลาสติกชั้นเดียว
ทำถุงบรรจุอาหารแห้งที่มีไขมัน ต้องการอายุการวางจำหน่ายนาน 1 ปี
แม้ว่าจะสามารถรีไซเคิลได้ แต่จะส่งผลให้อาหารเสื่อมคุณภาพเร็วกว่ากำหนด
ดังนั้นการใช้ถุงที่ทำจากฟิล์มพลาสติกหลายชั้นจึงมีความจำเป็น
เพื่อรักษาคุณภาพอาหารประเภทนี้ให้ได้นานตลอดอายุของการวางจำหน่าย
แม้ว่าวัสดุนี้จะไม่สามารถริไซเคิลได้ก็ตาม
2. เลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ดีพอเหมาะ : โดยไม่ก่อผลกระทบในการผลิต
การลำเลียงขนส่ง และคุณภาพของสินค้า
ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายของบรรจุภัณฑ์ได้ เช่น บรรจุภัณฑ์ขายปลีกมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์ขนส่งมีขนาดเล็กลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังอาจทำให้ต้นทุนของการลำเลียงขนส่งลดลงอีกด้วย
เพราะสามารถจัดเรียงสินค้าบนพาเลตและในพาหนะขนส่งได้จำนวนมากขึ้น ในเรื่องขนาดของบรรจุภัณฑ์
ผู้ประกอบการมักมีหลักเกณฑ์ในการกำหนดขนาด เช่น ปริมาณ ลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ที่เครื่องบรรจุ
การเปรียบเทียบกับขนาดบรรจุภัณฑ์ของคู่แข่ง และกฎระเบียบในเรื่องขนาดบรรจุภัณฑ์
ทั้งนี้บรรจุภัณฑ์ที่ให้ประโยชน์ด้านโลจิสติกส์นี้
นอกจากคำนึงถึงตัวสินค้าแล้ว จะต้องคำนึงถึงมาตรฐานต่างๆ อีกด้วย
เช่น ขนาดของ pallet ขนาดของชั้นวางสินค้า
ขนาดของรถบรรทุก ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น
นอกจากมาตรฐานแล้วยังมีเรื่องของความสะดวกในการทำงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น การสั่งซื้อ การสั่งเบียร์เป็นลังของร้านค้าสะดวกกว่าสั่งซื้อเป็นขวด การนับสินค้าเต็ม pallet ง่ายกว่าการนับสินค้าทีละหน่วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นรายละเอียดเพียงปลีกย่อยในการพิจารณา ซึ่งไม่ใช่กฎตายตัวหรือแบบแผน ดังนั้นต้องมีการวิเคราะห์ด้านโลจิสติกส์อย่างรอบคอบ
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<