ผ่าวิสัยทัศน์ ทายาทธุรกิจ GEN 2 ‘เมดิทอป’ ผู้นำเข้าและผลิตเครื่องมือทางการแพทย์แถวหน้าของเมืองไทย
ดร.สุวิมล และคุณศุภกิจ สังขธรรมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดิทอป จำกัด สองพี่น้องผู้เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว ต่อจากรุ่นคุณพ่อ คือ คุณชนินทร์ สังขธรรมวงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท นำเข้า ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย และส่งออกเครื่องล้างกระบอกไตเทียม ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ Pain Point ผู้บริโภค และผลักดันการขยายธุรกิจด้าน Healthcare ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ยาวนานกว่า 38 ปี

เปลี่ยน PASSION เป็นธุรกิจ
ดร.สุวิมล สังขธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดิทอป จำกัด เปิดเผยเส้นทางสู่ความสำเร็จว่า บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2528 จนมาถึงวันนี้ก็ 38 ปีแล้ว ทุกสิ่งเริ่มจากคุณพ่อมีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นหมอ แต่ในที่สุดก็ได้เป็นเภสัชกร และมีความสุขกับสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ได้ทำตลอดมา
ซึ่งก่อนที่คุณพ่อจะมาทำธุรกิจนี้ คุณพ่อเป็นผู้แทนยาและอุปกรณ์การแพทย์มาก่อน จึงมีประสบการณ์ติดต่อซื้อขายเครื่องมือทางการแพทย์กับทางโรงพยาบาล ต่อมาจึงเห็นช่องทางการนำเครื่องมือแพทย์เข้ามาจำหน่าย โดยเริ่มติดต่อซัพพลายเออร์จากต่างประเทศโดยตรง สินค้าตัวแรกคือ ตัวกรองไตเทียม และเครื่องไตเทียม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการทำธุรกิจของเรา

เมื่อ GEN 2 เข้ามารับไม้ต่อธุรกิจครอบครัว
คุณศุภกิจ สังขธรรมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดิทอป จำกัด ฉายภาพว่า สิ่งแรกที่เข้ามาพัฒนาคือ ระบบไอที ระบบบัญชี และระบบลูกค้าสัมพันธ์ ส่วนในเรื่องที่อยากจะพัฒนาต่อจากนี้คือความสัมพันธ์องค์กร และอัตลักษณ์ขององค์กร รวมไปถึงการพัฒนาทักษะของพนักงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันอย่างมาก
เราปรับตัวและปรับองค์กรให้ทันสมัยทันเหตุการณ์มากขึ้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น จากเดิมที่ใช้ระบบรายงานการทำงานและเก็บข้อมูลด้วยกระดาษ และต่อมาใช้วิธีส่งไฟล์เอกซ์เซลทางอีเมล ก็ปรับมาใช้ระบบ Customer Relationship Management (CRM) เพื่อเก็บข้อมูลการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา ประมวลผลได้รวดเร็ว แม่นยำ และถูกต้องมากขึ้น ทำให้เรามีข้อมูลที่สามารถใช้ในการทำงานเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“... ในด้านการทำธุรกิจในรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกับสมัยคุณพ่อ คือ ในรุ่นคุณพ่อที่เริ่มสร้างธุรกิจ ความยากอยู่ที่ต้องหาสินค้าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ทั้งหมด แต่รุ่นเราซึ่งเป็นGEN 2 เข้ามาบริหาร เรามีสินค้าที่มีคุณภาพมากมาย มีฐานลูกค้าทั่วประเทศรวมถึงลูกค้าในหลายประเทศแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เราสามารถพัฒนาสินค้าและบริการ รักษาฐานลูกค้า แล้วสร้างระบบเพื่อขยายธุรกิจต่อไปได้ นั่นคือสิ่งที่ท้าทายสำหรับเราที่เข้ามาสานต่อธุรกิจจากคุณพ่อ...”

ความทันสมัยของเครื่องมือแพทย์ของไทยอยู่ในระดับไหน?
คุณศุภกิจ เผยว่า ปัจจุบันเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้อยู่ในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน และยังถือเป็นหนึ่งใน เมดิคัล ฮับ ที่ติดท็อปเท็นในระดับภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย
“...ต้องบอกว่าการแพทย์ของไทยนั้น ไม่ด้อยกว่าต่างประเทศเลย เพราะแพทย์ไทยมีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะเห็นได้จากจำนวนคนต่างชาติจากหลากหลายประเทศที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทย...”

‘เมดิทอป’ แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์อย่างไร ?
‘เมดิทอป’ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ เครื่องมือวิเคราะห์ในห้องแล็บ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศไทย จากประสบการณ์กว่า 38 ปี กับสินค้าเครื่องมือแพทย์ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้นำทางด้านเครื่องมือวิเคราะห์ในห้องแล็บ เครื่องมือแพทย์ในห้องผ่าตัด เครื่องมือแพทย์ด้านโรคหัวใจ เครื่องมือแพทย์ด้านโรคไต เครื่องมือแพทย์เวชวิกฤต อุปกรณ์การแพทย์เฉพาะทางต่างๆ อุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยตามบ้าน และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าทั้งโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ และโรงงานทั่วประเทศ กลุ่มสินค้าที่บริษัทฯ นำเสนอเป็น 9 กลุ่ม ดังนี้..
1. กลุ่มเครื่องมือวิเคราะห์ห้องแล็บ
2. กลุ่มเครื่องมือแพทย์ในห้องผ่าตัด
3. กลุ่มเครื่องมือแพทย์ด้านหัวใจและสัญญาณชีพ
4. กลุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือด
5. เครื่องมือแพทย์ด้านโรคไต
6. กลุ่มเครื่องมือแพทย์ด้านปอดและเวชวิกฤต
7. กลุ่มเครื่องมือวิทยาศาสตร์
8. กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยตามบ้าน
9. ตลาดต่างประเทศ เป็นสินค้าที่ทางบริษัทผลิตเอง ได้แก่ เครื่องล้างกระบอกกรองไตเทียม และระบบกรองน้ำบริสุทธิ์ทางการแพทย์

คุณศุภกิจ ขยายความว่า ‘เมดิทอป’ จะแบ่งสินค้าตามกลุ่มลูกค้า อย่าง ในโรงพยาบาลก็จะมีหลายแผนกเช่น แผนกแล็บ แผนกหัวใจ แผนกไต ห้องผ่าตัด เป็นต้น เนื่องจากเครื่องมือทางการแพทย์มีความหลากหลาย ดังนั้น การแบ่งตามกลุ่มของลูกค้า จะทำให้เซลส์สามารถเรียนรู้สินค้าที่รับผิดชอบเฉพาะทางได้โดยละเอียด เพื่อสามารถให้ข้อมูลและและให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความโดดเด่นที่เป็นจุดแข็งของ ‘เมดิทอป’
สำหรับจุดเด่นที่ส่งผลต่อการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดร.สุวิมล เผยว่า บริษัทมุ่งเน้นในการคัดสรรสินค้านำเข้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน รวมทั้งมีสินค้าที่ผลิตเองได้ตรงตามความต้องการของตลาด และการให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง มีเครือข่ายทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ และในต่างประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่หรือแก้ปัญหาเมื่อลูกค้าต้องการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริการหลังการขายในการดูแลรักษาและซ่อมแซมสินค้า โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องให้บริการเร่งด่วน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ ตลอดจนมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทดแทนเมื่อมีกรณีที่เกิดเหตุขัดข้อง
พร้อมกันนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ คอยให้คำแนะนำด้านการใช้งานในศักยภาพของเครื่องมือแพทย์แต่ละชนิดแก่บุคลากรทางการแพทย์
อย่างเช่น เซลส์ที่ขายผลิตภัณฑ์ในห้องแล็บของโรงพยาบาล เราจะใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการแพทย์ซึ่งมีความรู้เรื่องแล็บในโรงพยาบาลอยู่แล้ว ส่วนที่เป็นเซลส์ขายคุรุภัณฑ์ ที่ทำงานในห้องผ่าตัด หรือห้องไอซียู ก็จะเป็น วิศวกร พยาบาล หรือนักเทคนิคการแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งเราจะใช้ผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและวางใจในผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่จะนำไปใช้งานได้อย่างปลอดภัย ถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เพื่อแก้ Pain Point ของลูกค้า
ดร.สุวิมล อธิบายว่า เนื่องจากเราขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับด้านโรคไต จึงมีขายเครื่องฟอกไต ขายเครื่องกรองสารพิษออกจากเลือด ซึ่งในต่างประเทศจะใช้ตัวกรองไตแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่ของในประเทศไทยจะเป็นการนำมาล้างเพื่อใช้กับคนไข้คนเดิมซ้ำจนกว่าตัวกรองจะเสื่อมสภาพ
โดยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คุณพ่อได้ไปดูงานประเทศต่าง ๆ จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างและพัฒนาเครื่องล้างตัวกรองไตที่สามาถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อย่างปลอดภัย และได้รับความสะดวกทั้งกับพยาบาลและคนไข้ จึงพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับ ‘รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ’ ด้วย ซึ่งปัจจุบันพัฒนาไปหลายรุ่นแล้วโดยจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งนวัตกรรมนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งผู้ป่วยและภาครัฐได้อย่างมากเลยทีเดียว

นอกจากนี้เรายังผลิตเครื่องกรองน้ำ RO (Reverse Osmosis) สำหรับใช้กับเครื่องไตเทียม ทั้งแบบที่เป็นระบบใหญ่และแบบเคลื่อนที่ได้ ซึ่งในบางครั้งทางโรงพยาบาลมีจำเป็นต้องย้ายเครื่องเครื่องไตเทียมไปใช้ในแผนกต่าง ๆ เช่น ห้องไอซียู ซึ่งไม่มีระบบน้ำ RO ติดตั้งอยู่ การที่มีระบบ RO แบบเคลื่อนที่ได้ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เครื่อง RO ของบริษัทก็ได้รับคำสั่งซื้อมากพอสมควร เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนไข้จะต้องรักษาตัวแบบแยกอยู่คนเดียว การเคลื่อนย้ายเครื่องไตเทียม และการมีเครื่อง RO แบบเคลื่อนที่ได้ จึงเป็นการแก้ Pain Point ช่วยให้การทำงานสะดวกมากขึ้นนั่นเอง

วางอนาคต ‘เมดิทอป’ อีก 5 ปีข้างหน้าไว้อย่างไร ?
ดร.สุวิมล เผยวิสัยทัศน์เรื่องนี้ว่า หลัก ๆ แล้ว ‘เมดิทอป’ จะนำเข้าเครื่องมือการแพทย์เป็นส่วนใหญ่ และกระจายให้กับผู้ใช้ทั้งตามบ้าน บริษัท โรงงาน และโรงพยาบาล ซึ่ง ปัจจุบัน มีการขยับขยายและวางแผนจะแตกไลน์ให้มากขึ้น เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงตามความต้องการมากยิ่งๆขึ้นไป ส่วนผลิตภัณฑ์ เรามีการสร้างโรงงานขึ้นมาเพื่อผลิตสินค้าเองมากขึ้น
นอกจากนี้ยังแตกไลน์บริษัท เป็นศูนย์บริการห้องแล็บ ที่รับบริการตรวจเลือด ปัสสาวะ ชิ้นเนื้อ และสิ่งส่งตรวจจากโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ ซึ่งเปิดมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว เป็นการต่อยอดให้เติบโตแบบครบวงจร
ขณะที่ในส่วนของเครื่องมือการแพทย์ที่ใช้ในบ้าน สำนักงาน หรือบริษัท อย่างเครื่องทำ CPR +AED กระตุกหัวใจ เราก็แตกไลน์ให้มีเซลส์เฉพาะเพื่อโฟกัสมากขึ้น เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว มาโฟกัสให้ชัดเจนและมีความเฉพาะด้านมากขึ้น
ฝากแง่คิด ผู้ประกอบการ SME ในการทำธุรกิจ
ก่อนจบการสนทนา ดร.สุวิมล ให้แง่คิดถึงผู้ประกอบการ SME ว่า การทำธุรกิจควรมองภาพให้กว้าง ๆ และใช้ความระมัดระวังในการลงมือทำ ถ้า SME มีไอเดียที่ดี ๆ มีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายธุรกิจให้เติบโตได้ไม่ยาก

ที่สำคัญต้องมีความรอบคอบในการลงทุน และต้องมีพันธมิตรที่ดี อย่างเช่น ธนาคารที่จะช่วยเราซัพพอร์ตเรื่องเงินทุนในการขยายธุรกิจได้ ทำให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมั่นคงมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ คุณศุภกิจ กล่าวเสริมว่า การจะการทำธุรกิจต้องรู้ Pain Point ของผู้บริโภคเสียก่อน จะทำให้ธุรกิจตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง

รู้จัก ‘บริษัท เมดิทอป จำกัด’ เพิ่มเติมได้ที่
http://meditopthailand.com/th/index.php
https://www.facebook.com/meditopthailand
https://www.facebook.com/aedmeditop/
https://www.facebook.com/MDTLab.Center
https://www.mdtlab.co.th/TH/home.html