ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในกัมพูชาขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเริ่มเป็นอุตสาหกรรมที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้
เป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายการเร่งรัดพัฒนาประเทศที่เน้นเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น
กระทรวงที่ดินผังเมืองและการก่อสร้างของกัมพูชา
ระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562
สถานการณ์ของภาคการก่อสร้างกัมพูชามีการเติบโตในเกณฑ์ดี
มีมูลค่าการลงทุนในภาคการก่อสร้างภายในประเทศสูงถึง 2,742
ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
โดยการก่อสร้างส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ อย่างเช่น กรุงพนมเปญและพระสีหนุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่ทางรัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการเร่งรัดให้มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
นโยบายดังกล่าวส่งผลดีต่อนักลงทุนไทย
จะเห็นว่ามีการเตรียมพร้อมและขยายการลงทุนอย่างคึกคักล่าสุดเมื่อวันที่ 20
มีนาคม 2562
กระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชาอนุมัติให้โครงการ เขตเศรษฐกิจพิเศษสุวรรณภูมิผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการเป็นที่เรียบร้อย
และสามารถดำเนินการก่อสร้างตามแผนต่อไปได้
ทั้งนี้ โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวเป็นการลงทุนของนักลงทุนจากประเทศไทยโดยกลุ่ม
TCC ซึ่งได้เข้าไปลงทุนจัดตั้งบริษัทสุวรรณภูมิขึ้นเมื่อ
10 ปีก่อนหรือประมาณปี 2008
เริ่มก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินขนาดกำลังการผลิต 10
เมกะวัตต์
ตามด้วยการพัฒนาที่ดินเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ขึ้นบนพื้นที่ขนาด
1,281.25 ไร่ในปี 2012
และได้รับการอนุมัติการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชาในปีถัดมา
นำมาสู่การจัดทำการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับการอนุมัติในการก่อสร้างดังกล่าว
สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้
ตั้งอยู่ที่จังหวัดกันดาล ห่างจากกรุงพนมเปญ 46
กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือพนมเปญประมาณ 12
กิโลเมตรโดยเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้มีโรงงานที่ทันสมัยพร้อมใช้งานรวมทั้งการอำนวยความสะดวกต่างๆ
อาทิ การออกใบอนุญาตการดำเนินการด้านพิธีศุลกากรรวมถึงการรับสมัครคนงาน เป็นต้น
การก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ไม่เพียงจะเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้นเท่านั้นแต่ยังถือว่าเป็นการสร้างงานให้กับชาวกัมพูชาด้วยซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันกัมพูชามีเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมทั้งหมด
19 แห่งมีการจ้างแรงงานรวม 94,000
คน ในปีที่ผ่านมากัมพูชามีการส่งออกสินค้ามูลค่า 12,120
ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกสินค้าที่ผลิตได้จากเขตเศรษฐกิจพิเศษรวม 1,884
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่โอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยจากเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว ถือว่าเป็นแหล่งผลิตที่มีทำเลที่ตั้งที่ดี เพราะอยู่ใกล้ศูนย์กลางทางธุรกิจของประเทศท่าเรือและไม่ไกลจากชายแดนเวียดนาม ประกอบกับมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมาะสำหรับการย้ายหรือขยายฐานการผลิตจากประเทศไทย
ทั้งนี้
ไม่เพียงนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเรียลเซกเตอร์ที่จะได้รับประโยชน์เท่านั้น
แต่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างจากไทยก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน
โดยก่อนหน้านี้โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่สองแห่งซึ่งเกิดจากการร่วมทุนของนักลงทุนไทยได้ขยายกำลังการผลิตเข้าไปยังกัมพูชาอาทิ
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวงไทย ร่วมทุนกับ Chip
Mong Group ตั้งบริษัท Chip
Mong Insee ลงทุน 262
ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลิตปูนซีเมนต์ที่จังหวัดกัมปอตกำลังการผลิต 5,000
ตันต่อวัน
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งการที่กัมพูชามีโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ภายในประเทศเกิดขึ้นส่งผลให้ความต้องการนำเข้าปูนซีเมนต์จากต่างประเทศลดลง โดยในอดีตปูนซีเมนต์ถือว่าเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่ไทยส่งไปยังกัมพูชา